ความเป็นไทย กับบ้านยุค 80 เสน่ห์บ้านสมัย ’80 ในสไตล์การแต่งบ้านสไตล์โบราณ สร้างบรรยากาศแบบย้อนยุคผสมความโก้เก๋
ความเป็นไทย กับบ้านยุค 80 แต่งบ้านสไตล์ย้อนยุคให้อารมณ์ราวกับบ้านอดีตสมัย ผสมความนำสมัยเข้าไว้ร่วมกันอย่างพอดี สำหรับใครกันแน่ที่ชอบพอความเก่าแก่ ความโบราณของสถาปัตยกรรมยุคเก่า ซึ่งถือว่ามีเอกลักษณ์น่ามองมากมายๆ วันนี้พวกเราพาไปดูงานตกแต่งที่เปี่ยมไปด้วยบรรยากาศในสมัยก่อน
เปรียบเสมือนได้นั่งเครื่องข้ามกาลเวลาย้อนกลับคืนสู่สมัยก่อนจริงๆจะมีแนวทางตกแต่งบ้านอย่างไรบ้างนั้น ตามมาดูกันเลย
สถาปัตยกรรมย้อนยุคยุครัชกาลที่ 5
เป็นที่เข้าใจกันดีว่ายุครัชกาลที่ 5 นั้น สถาปัตยกรรมที่รุ่งเรืองในสมัยนั้น เป็นการผสมแบบบ้านจีน และก็ แบบบ้านฝรั่งเข้าไว้ร่วมกัน มีความเด่นตรงกรอบประตูหน้าต่างเป็นบานโค้ง ลอยต่อของฝาผนังมีลวดลายปูนปั้น ส่วนกรอบเหนือประตู จะมีการปรุแบบฝรั่ง เป็นลวดลายละเอียดลออเพื่อมีลมพัดผ่านเข้ามา
ส่วนเครื่องเรือน นำความเก่าแก่ รวมทั้ง ใหม่มารวมไว้ร่วมกัน ไม่ว่าจะโซฟาหนังที่มองโก้ล้ำยุค จับคู่กับเก้าอี้สไตล์จีน ประทีปตั้งกับพื้นให้กลิ่นย้อนยุค เปลี่ยนเป็นส่วนประกอบที่พอดิบพอดี
ประสานอารมณ์แบบอินดัสเทรียล
เว้นเสียแต่ความโบราณไอเดียนี้ ยังแทรกสอดใส่เนื้อหาของความโก้เข้าไป เช่น เพดานแก้ผ้า เปิดเผยให้มองเห็นการเดินระบบไฟตามแบบบ้านสไตล์ลอฟท์อินดัสเทรียล แม้กระนั้นก็มิได้ดูดิบจนกระทั่งเกินความจำเป็น คอนทราสต์กันกับเครื่องเรือนย้อนยุค ไม่ว่าจะเป็นเตียงไม้โบราณ ตู้ ฯลฯ
ตะวันตก ประสานความเป็นอิสระย
ว่ากันว่าคนสมัยเก่านั้นมีความละเมียดสำหรับในการดำเนินชีวิต ทำให้ถ่ายทอดผ่านผลงานดีไซน์ ให้พวกเราได้มองเห็นอย่างงดงาม เหมือนกันกับ การตกแต่งข้างในบ้านสไตล์วัวโลเนียล สะท้อนให้มองเห็นถึง ความงอนงามของสถาปัตยกรรม นิยมใช้โทนสีอ่อน อย่างสีขาว สีครีมงา ในตอนนี้ ก็มีการตกแต่งบ้านสไตล์นี้ด้วยเหมือนกัน .
รวมถึง รีสอร์ท คาเฟ่ ห้องอาหาร เครื่องเรือนย้ำสิ่งของไม้นิยมแบบอย่างโบราณ มีความเก่าแก่ รวมทั้ง มองขลัง สร้างความสะดุดตาให้กับพื้นที่นั้นๆ
โมเดิร์นประสานไทยย้อนยุค
นอกเหนือจากการดีไซน์ข้างในบ้านแล้ว พวกเรายังนำความโบราณกลิ่นไทยๆมาใช้กับงานสวน ตัวอย่างเช่น วางแบบศาลานั่งพักผ่อนเชื่อมไปยังสวน ให้หลังคามีแบบเพิงหมาแหงน เพิ่มเสน่ห์ด้วยช่องลมลายฉลุอย่างไทย เปลี่ยนเป็นแบบอย่างโมเดิร์นที่ประสานความเก่าแก่ย้อนยุคไว้อย่างกลมกลืน
ไอเดียแต่งบ้านสไตล์ย้อนยุค Back to Classic แม้กระนั้นแสนเก๋สุดชิคพอได้
อย่าเพิ่งจะมีความรู้สึกว่า การแต่งบ้านสไตล์ย้อนยุคจะเป็นการแต่งบ้านด้วยของโบราณหรือของเก่า ด้วยเหตุว่าในความเป็นจริงแล้วการแต่งบ้านย้อนยุคมีหลายแนว แล้วก็พวกเราสามารถเลือกแต่งให้มีกลิ่นความย้อนยุคอย่างนั้นได้ ไม่ว่าจะแนววินเทจ แนวเรโทร หรือ การแต่งบ้านสไตล์คลาสสิก ซึ่งแต่ละแบบจะมีความต่างกันอย่างไร พวกเราจะพาไปรู้จักกันนะครับ
แนวทางแต่งบ้านให้มีกลิ่นย้อนยุค
1. ย้ำสีธรรมชาติ
ต้องการให้บ้านมองคลาสสิกก็ทดลองกลับไปสู่ความเบสิกด้วยโทนสีธรรมชาติ ยกตัวอย่างเช่น สีน้ำตาล สีเขียว สีไม้ สีครีม สีเอิร์ธโทน อย่างงี้จะช่วยเพิ่มความรู้สึกอบอุ่น สุภาพ มองเป็นโซนที่น่าพักจริงๆแต่ว่าดังนี้การแต่งบ้านให้มองงามน่าอยู่ก็จำเป็นต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมด้วย โดยบางครั้งก็อาจจะใช้สีธรรมชาติกับห้องรับแขกหรือห้องนอน แต่ว่าส่วนสุขาที่อยากที่จะให้มองสะอาดหมดจด ก็บางทีอาจไปเน้นย้ำสีขาวสำหรับการตกแต่ง แล้วก็ใช้สีเขียว สีน้ำตาล เสริมเข้าไป
2. รียูสของโบราณ
การรีโนเวทเครื่องเรือนเก่าให้กลับมาอยู่ในภาวะงดงามรวมทั้งพร้อมใช้ ก็เป็นอีกหนึ่งไอเดียแต่งบ้านแบบวินเทจที่น่าดึงดูด เนื่องจากว่าอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับในการทำเครื่องเรือนอดีตสมัยออกจะทน มีการดีไซน์ที่มองงามคลาสสิก หรือถ้าหากสามารถใช้ตู้ เตียง ชั้นที่เอาไว้วางของชิ้นเดิมที่มีอยู่แล้วได้ ก็จะช่วยมัธยัสถ์ค่าตกแต่งได้อีกด้วย
3. เพิ่มเติมความย้อนยุคด้วยผ้า
เครื่องเรือนผ้าต่างๆอย่างเช่น โซฟาบุผ้า เก้าอี้ยาว ประพรม หรือแม้กระทั้งผ้าม่านที่ทำมาจากผ้าฝ้าย ผ้าลินิน ก็ช่วยเสริมความวินเทจให้บ้านได้ ยิ่งถ้าเกิดใช้โทนสีธรรมชาติอย่างสีน้ำตาล สีเทา สีครีม ก็จะมีผลให้บ้านมองอบอุ่นน่าอยู่เยอะขึ้น
4. ใช้เครื่องครัววินเทจ
ปัจจุบันมีเครื่องครัวสไตล์วินเทจวางขายอยู่ล้นหลาม ไม่ว่าจะถ้วย จาน ถ้วยชาม หม้อ กระทะ ถ้วยน้ำ กาสำหรับใส่น้ำชา ตะเกียบ ช้อน ส้อม พวกเราสามารถเลือกออกแบบย้อนยุคได้ตามที่ใจต้องการเลย รวมทั้งถ้าตกแต่งครัวด้วยเครื่องเรือนไม้ หน้าต่าง ประตู ที่เป็นออกแบบย้อนยุคด้วย ก็จะยิ่งทำให้มีบรรยากาศของสมัยเก่าๆ ได้ดีมากๆ เลยทีเดียว
5. ไม่กซ์ของใช้สำหรับแต่งบ้านให้แมตช์กับสไตล์ที่อยากได้
แน่ๆว่าของต่างๆที่ใช้สำหรับการแต่งบ้านตามร้านค้าต่างๆชอบละลานตาไปหมด รวมทั้งส่วนมากบางทีอาจเป็นแถวโมเดิร์น ซึ่งถ้าหากใจรักความวินเทจจริงๆก็จะต้องเสาะหาของใช้สำหรับแต่งบ้านแนวนี้กันนิดเดียว หรือถ้าเกิดพบบางชิ้นที่มีความล้ำยุค แต่ว่าไปแมตช์กับสไตล์ของบ้านได้อย่างไม่แหวกแนวมากแค่ไหน โทนได้ วางแบบได้ จะทดลองเลือกมาแต่งบ้านก็ไม่จัดว่าไม่ถูก
6. รักษาความเบสิกเอาไว้
ทดลองย้อนคิดไปถึงสไตล์การแต่งบ้านในสมัยก่อน ที่ไม่ค่อยย้ำของต่างๆที่ใช้สำหรับการแต่งบ้านเบ็ดเตล็ดเยอะแยะชิ้น แต่ว่าจะเลือกใช้ของอื่นๆที่มีไว้เพื่อการแต่งบ้านที่มีคุณประโยชน์แล้วก็ใช้ได้จริง ด้วยเหตุนั้นถ้าเกิดจะตกแต่งแนวนี้ ก็อย่าลืมความเบสิก ความไม่นิมอลในสมัยก่อนๆด้วย ด้วยเหตุว่าถ้าเกิดตกแต่งมากมายจนกระทั่งเกินจำเป็นก็บางทีอาจมองเกลื่อนกลาดตามากกว่าจะสวยนะคะ
7. คุมความย้อนยุคในทุกๆห้อง
ควรจะตกแต่งทุกห้องทุกจุดให้เป็นสไตล์เดียวกันทั้งหมดทั้งปวง ถ้าหากจะวินเทจก็จะต้องคุมความวินเทจไปถึงห้องสุขา ครัว รวมถึงประตูหน้า เพื่อไม่ให้สไตล์การตกแต่งแต่ละห้องไปคนละทาง
แบบบ้านร่วมยุค ความสวยสดงดงามที่ระยะเวลาทำอะไรมิได้
บ้านชั้นเดี่ยวร่วมยุค
แต่ละสมัย แต่ละยุค มีเส้นสายการออกแบบที่ต่างๆนาๆ แล้วก็ เมือเวลาผ่านไปกำเนิดเส้นแบบใหม่ขึ้นมา เมื่อหันกลับไปดูบ้านอดีตสมัย นอกเหนือจากร่องรอยของวัฒนธรรมแล้วก็ความจำแล้ว ยังมีเสน่ห์ที่ปนอยู่ไม่เลือนราง บ้านชั้นเดี่ยวข้างหลังนี้ก็สิ่งเดียวกัน ทำขึ้นตั้งแต่ คริสต์ศักราช 1900 เดิมเป็นกระต๊อบคนงานข้างหลังเก่า ที่ได้ถูกช่วยชีวิตขึ้นมาใหม่ในปี คริสต์ศักราช 2006 เปลี่ยนเป็นบ้านที่มีความสวยสดงดงามและก็ความเฉิดฉันมากมายๆ อีกหนึ่งข้างหลัง
บ้านชั้นเดี่ยว คลาสสิคร่วมยุค
ตัวบ้านยกพื้นน้อย ขั้นบันไดเบื้องหน้าบ้านมุ่งขึ้นสู่เฉลียงระเบียง ราวกันตก ระแนงไม้สีขาว ลวดลายการปรุ มีความประณีตและวิจิตรบรรจงและก็สุภาพอยู่ในคราว ประตูบ้านมีบานกระจกอีกทั้งข้างๆ รวมทั้ง ข้างบน ส่วนประตูเป็นบานทึบสีขาว เมื่อเปิดเข้าไป จะเจอกับทางเท้าที่ปูพื้นไม้สีน้ำตาลเหลืองเป็นเส้นแนวตรง
ไปสู่ประตูอีกบานที่อยู่ข้างหลังบ้าน การตกแต่งร่วมยุค มีกลิ่นเริ่มแรกของบ้านแต่ก่อน ฝาผนัง เพดานใช้สีขาวทั้งผอง ซึ่งตัดกับสีของพื้นไม้อย่างดีเยี่ยม ซุ้มประตูโค้งในส่วนต่างๆ สร้างบรรยากาศที่แสนสุภาพได้อย่างดียิ่ง
ใช้พื้นที่ไม่เยอะแยะสำหรับในการตกแต่งเป็นมุมนั่งพักผ่อน กันฝาผนังทึบด้านหนึ่งเพื่อความเป็นสัดส่วน และก็ เป็นส่วนตัว หน้าต่างกระจกรอรับแสงสว่าง แม้กระนั้นในครั้งคราวก็ให้แสงไฟที่แรงเหลือเกิน ผ้าม่านสีขาวบางก็เลยเป็นตัวช่วยสำหรับเพื่อการกรองแสงสว่าง รวมทั้ง ทำให้ห้องมีความค่อยสบาย พริ้วไหวเยอะขึ้นเรื่อยๆ ห้องกินอาหาร นับเป็นใจกลางของบ้าน
จัดวางโต๊ะแล้วก็เก้าอี้วินเทจ พร้อมทั้งกระถางดอกไม้ตามจุดต่างๆ สีเขียวของใบไม้ ทำให้บ้านสีขาวมองชื่นบาน แล้วก็ เบิกบานใจมากยิ่งกว่าเดิม
โซนหลังสุดในบ้านหมายถึงครัวร เคาน์เตอร์ ตู้ลอยจัดตั้งอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมกับการใช้แรงงาน ซิงค์ล้างถ้วยชามอยู่ตรงกับหน้าต่างกระจก ลดความอับเปียกชื้น และก็ ฆ่าเชื้อโรคหมักหมมได้ในระดับนึง ตรงกันข้ามมีพื้นที่ว่างหน้าห้องนอน จัดวางเก้าอี้พร้อมโต๊ะข้างไว้เป็นมุมเล็กๆนั่งจิบกาแฟ หรือ อ่านหนังสือ
ถึงแม้พื้นที่จะไม่เยอะแยะแต่ว่าก็ไม่รู้จักสึกอึดอัด เนื่องจากมีประตูกระจกกรอบไม้ รับแสงสว่างธรรมชาติ แล้วก็ ปฏิบัติภารกิจเชื่อมโยงไปสู่ระเบียงน้อยๆที่อยู่นอกบ้าน
3 ห้องนอน 1 ส้วม สมาชิกในครอบครัวใช้สุขาด้วยกัน ขนาดห้องนอนของแต่ละห้องไม่ได้มีความแตกต่างกันมากมาย ตกแต่งคล้าย โดยย้ำความอ่อนน้อมถ่อมตน บรรเทาเป็นหลัก เครื่องเรือนจำนวนมากข้างในบ้าน เป็นเครื่องเรือนแบบลอยตัว สามารถโยกย้าย และก็ เปลี่ยนแปลงได้ตามอยาก ทั้งใช้งานได้ยืดหยุ่นเพิ่มมากขึ้น
ขนาดที่กระชับรวมทั้งออกแบบที่น่ารักน่าเอ็นดูน่าถนอม ทำให้บ้านชั้นเดี่ยว 3 ห้องนอน 1 ห้องสุขา มีเสน่ห์ที่ต้องตาน่าประทับใจ มั่นใจว่าถึงแม้เวลาจะผ่านไปนานมากแค่ไหน บ้านข้างหลังนี้ก็จะเฉิดฉันความสวยสดงดงาม รวมทั้ง ความคลาสสิคอยู่ตลอด