บ้านสไตล์รีสอร์ท

บ้านสไตล์รีสอร์ท บ้านที่ผสมผสานความเป็นธรรมชาติเข้ากับ พื้นที่ของบ้าน ทั้งภายในและภายนอก ทำให้ผู้พักอาศัยได้สัมผัสบรรยากาศของบ้านใกล้ชิดธรรมชาติที่โปร่งสบาย ร่มรื่น ชวนผ่อนคลายเสมือนพักผ่อนในรีสอร์ทส่วนตัวในทุกๆ วัน โดยไม่ต้องรอวันหยุดหรือวันว่าง

การออกแบบบ้านสไตล์รีสอร์ท จะแบ่งพื้นที่เป็น 3 ส่วนหลักคือ พื้นที่ภายในบ้าน พื้นที่ภายนอกบ้าน และลานกิจกรรมส่วนกลางที่มีความเป็นธรรมชาติ และเป็นส่วนเชื่อมโยงพื้นที่ภายนอกและภายใน มีฟังก์ชันรองรับไลต์สไตล์อย่างครบครัน และด้วยพื้นที่ที่ถูกเติมเต็มไปด้วยธรรมชาตินี้ จึงนำมาซึ่งความโดดเด่นของบ้านสไตล์รีสอร์ทที่ครองใจคนรักธรรมชาติ

บ้านสไตล์รีสอร์ท

แบบบ้านรีสอร์ทสไตล์โมเดิร์น ที่ทุกคนกำลังจะได้เห็นกันในขนาดนี้เป็นแบบบ้านที่ได้รับการออกแบบผลงานโดยทีมงานที่มีฝีมือ บ้านหลังเล็กที่ออกแบบมาเพื่อการพักผ่อนชั่วคราว รูปทรงเรียบง่ายทันสมัย อีกหนึ่งไอเดียที่เหมาะกับธุรกิจรีสอร์ท ถึงแม้ว่าตัวบ้านนนั้นมีขนาดกะทัดรัดไม่ใหญ่มากแต่ก็พร้อมสำหรับการใช้งานอย่างมาก

เปลี่ยนบ้านเดี่ยวให้เป็นรีสอร์ท ด้วยจุดเด่นของแบบบ้านสไตล์รีสอร์ท ทั้งโทนสี การเลือกใช้วัสดุ หรือรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่พยายามสอดแทรกธรรมชาติเข้าไปในบ้าน อย่างการเพิ่มมุม Courtyard สวนกลางบ้าน หรือปรับเปลี่ยนพื้นที่บริเวณระเบียงเป็น Semi-Outdoor สามารถเลือกเปิดรับลมได้ตามต้องการ

และเพื่อเติมเต็มบรรยากาศการพักผ่อนให้มากยิ่งขึ้น ยังสามารถใส่ไอเดีย การตกแต่งบ้านสไตล์รีสอร์ท ไว้ทุกซอกมุมในบ้าน และใช้ว่าเป็นการสอดแทรกพื้นที่สีเขียวลงไปเท่านั้น แต่ยังต้องคำนึงถึงการตอบสนองความต้องการของสมาชิกทุกคนในบ้าน ความเรียบง่าย และฟังก์ชันการใช้งานเป็นหลักด้วย

สัมผัสแบบบ้านสไตล์รีสอร์ท

ความพิเศษของแบบบ้านสไตล์รีสอร์ทใช่ เพียงแค่การออกแบบบ้าน หรือเลือกใช้วัสดุที่เน้น ความเป็นธรรมชาติ ร่มรื่นและเหมาะกับการพักผ่อนอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังเน้นฟังก์ชัน ทุกซอกทุกมุมของบ้าน ให้เป็นพื้นที่นั่งทำงาน อ่านหนังสือ ออกกำลังกาย หรือแม้แต่นั่งดูซีรีย์เรื่องโปรด ท่ามกลางบรรยากาศสบายๆ ในบ้าน เหตุนี้จึงทำให้บ้านสไตล์รีสอร์ท ถูกจัดอยู่ในรายชื่อแบบบ้านยอดนิยม

ความพิเศษของบ้านสไตล์รีสอร์ท

1. มีต้นไม้ใหญ่ให้ความร่มรื่น

ต้นไม่ใหญ่เป็นองค์ประกอบ สำคัญของบ้านสไตล์รีสอร์ท ที่ช่วยสร้างบรรยากาศให้มีความเป็น ธรรมชาติมากขึ้น และเป็นจุดเด่นของพื้นที่ส่วนกลาง ทำให้มีความร่มรื่น ผ่อนคลาย มีชีวิตชีวายามพักอาศัย

2. ทุกฟังชันในบ้านถูกออกแบบช่องเปิดให้เห็นธรรมชาติภายนอก

โดยช่องเปิดของแต่ละห้องนั้น จะถูกออกแบบให้อยู่ในมุม ที่สามารถมองเห็นวิวพื้นที่ส่วนกลาง ได้ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของบ้าน ทำให้ผู้พักอาศัยสามารถใช้ชีวิตอิงธรรมชาติ ได้อย่างผ่อนคลายตามไลฟ์สไตล์ที่ชื่นชอบ

3. มีพื้นที่ส่วนกลางรองรับทุกกิจกรรม

พื้นที่ส่วนกลางเป็นพื้นที่ ที่ถูกจัดวางให้มีฟังก์ชันรองรับไลฟ์สไตล์ของสมาชิก และสามารถทำกิจกรรม ร่วมกันได้ในทุกช่วงเวลา   ด้วยการออกแบบที่เน้น การใช้สอยพื้นที่อย่างคุ้มค่า และพื้นที่ส่วนกลางนี้จะเชื่อมโยงทุกพื้นที่ ในบ้านทำให้ผู้อยู่อาศัยสามารถใช้ชีวิตได้อย่างต่อเนื่อง

4. มีสวนธรรมชาติให้ความผ่อนคลาย

ธรรมชาติเป็นเหมือนทางลัดสร้างความผ่อนคลาย การออกแบบบ้านสไตล์รีสอร์ท จึงมีพื้นที่ธรรมชาติเป็นสัดส่วนสำคัญ โดยส่วนประกอบของส่วนอาจมีบ่อปลา น้ำตก โขดหิน ต้นไม้นานาพันธุ์ และเสียงจากธรรมชาติที่ผู้พักอาศัย ได้สัมผัสเมื่อไร ก็รู้สึกถึงคำว่าพักผ่อนอย่างแท้จริง บ้านหรู

5. มีธรรมชาติพร้อมต้อนรับตั้งแต่ทางเข้าบ้าน

บ้านสไตลล์รีสอร์ทจะมี การออกแบบพื้นที่ ให้เข้าถึงธรรมชาติ ตั้งแต่บริเวณทางเข้า บ้านถึงตัวบ้าน ทำให้ผู้พักอาศัยสามารถสัมผัสความสดชื่นทุกครั้งที่กลับเข้าบ้าน และรู้สึกผ่อนคลายต่างจากพื้นที่นอกรั้วบ้าน

6. มีการออกแบบพื้นที่ให้อากาศถ่ายเทได้ดี

บ้านสไตล์รีสอร์ทจะถูกออกแบบ พื้นที่ให้มีความร่มรื่น น่าพักอาศัยเพราะแวดล้อมด้วยธรรมชาติ ขณะเดียวกันก็มีการออกแบบให้ได้รับแสง และลมธรรมชาติ ซึ่งเป็นข้อดีที่ทำให้ทุกพื้นที่ มีอากาศถ่ายเทหมุนเวียนตลอดเวลา และไม่สะสมความชื้น

7. พื้นที่ส่วนตัวมีช่องเปิดรับธรรมชาติ

เพื่อการใช้ชีวิตอย่างสมบูรณ์พร้อมการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง จึงมีการออกแบบให้ห้องนอนมีช่องเปิดรับแสงธรรมชาติ สามารถมองเห็นสวนธรรมชาติได้ ขณะเดียวกันบริเวณห้องน้ำก็ถูกออกแบบให้มีส่วนบังตา และมีพื้นที่สีเขียวพร้อมช่องเปิดรับแสงธรรมชาติ ทำให้อากาศถ่ายเทได้ดีและไม่อับชื้น

การตกแต่งบ้านสไตล์รีสอร์ท

การตกแต่งแบบบ้านสไตล์รีสอร์ทเป็นการตกแต่งบ้านให้สอดคล้องไปกับธรรมชาติ เพราะความหมายของคำว่ารีสอร์ทแปลว่า สถานที่พักผ่อน หากพูดถึงสถานที่พักผ่อน คงหนีไม่พ้นภาพวิวทิวทัศน์ ภูเขา ต้นไม้และท้องทะเล ธรรมชาติรายล้อม แต่ด้วยภาระหน้าที่การงานทำให้เราไม่สามารถเดินทางไปสถานที่พักผ่อนหย่อนใจทุกวันได้ ไอเดียต่อไปนี้จะขอเชิญชวนทุกคน มาตกแต่งบ้านให้สดชื่นชุ่มฉ่ำให้มีบรรยากาศเหมือนรีสอร์ทที่เราเคยไปพัก โดยดึงองค์ประกอบของต้นไม้ใบหญ้าเข้ามาใช้ จนกลายเป็นแบบบ้านที่ผ่อนคลาย

เรียบง่ายกลมกลืนไปกับธรรมชาติ

 การออกแบบบ้านหลังเล็กๆให้มีรูปทรงเรียบง่ายด้วยหลังคาหน้าจั่ว ด้านหน้าเปิดโล่งด้วยประตูกระจกบานเลื่อนยามพักผ่อนอยู่ในบ้านเราจะได้รู้สึกสดชื่นผ่อนคลายเมื่อได้เห็นสวนสวยๆจากบริเวณรอบบ้าน หากมีพื้นที่มากหน่อยอาจจะทำสระว่ายน้ำเล็กๆด้วยได้ยิ่งดี เมื่อลมพัดผ่านมาปะทะจะช่วยให้ไอเย็นระเหยลอยเข้าสู่ตัวบ้าน

ตกแต่งด้วยหินธรรมชาติ 

เพิ่มเสน่ห์ให้บ้านของคุณด้วยการดึงผนังหินธเข้ามาใช้ตกแต่งในมุมเอาท์ดอร์ เพิ่มลุคของความเป็นธรรมชาติให้กับมุมบ้านได้เป็นอย่างดี จับคู่กับชุดโต๊ะเก้าอี้เก๋ๆ ในบรรยากาศโปร่งสบาย ชวนให้บ้านมีความน่าสนใจได้ไม่ยาก

วัสดุไม้ต้องมี 

เหนือสิ่งอื่นใดของการตกแต่งบ้านสไตล์รีสอร์ทนั้น คงหนีไม่พ้นวัสดุอบอุ่นอย่างไม้ ซึ่งถูกนำมาเป็นเฟอร์นิเจอร์ทีมหลักให้กับการตกแต่งภายในบ้าน เช่นเดียวกับห้องนั่งเล่น เล่ือกโซฟาไม้สีเข้มจับคู่กับโต๊ะกลาง เสริมด้วยกระถางต้นไม้ เพียงเท่านี้ก็มอบบรรยากาศสงบสบายให้บ้าน 

สวนน้ำตก

 การออกแบบสวนข้างบ้าน ให้ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศของลำธาร น้ำตก และป่าเขา โดยจำลองสวนสไตล์ทรอปิคอล ให้มีน้ำตกหินธรรมชาติ น้ำไหลจากด้านบนสู่บ่อน้ำด้านล่าง เพราะเสียงของมันจะช่วยให้เราผ่อนคลาย ผสมผสานกับไม้ประดับเมืองร้อนให้เขียวชอุ่มตา ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกเหมาะกับสภาพอากาศของเมืองไทยได้เป็นอย่างดี

เมื่อบ้านคือพื้นที่แห่งการพักผ่อนอย่างแท้จริง คงจะดีไม่น้อยหากในทุกวันที่อยู่อาศัยและทุกครั้งที่กลับเข้าบ้าน คุณจะได้สัมผัสกับธรรมชาติได้ทันที พร้อมใช้ชีวิตตามไลฟ์สไตล์ที่ชื่นชอบได้อย่างต่อเนื่องในพื้นที่ที่เชื่อมโยงถึงกันอย่างลงตัว

รีสอร์ทคือสถานที่ที่ให้เราได้ใกล้ชิดกับบรรยากาศแห่งการพักผ่อนอย่างเต็มที่ ปลดเปลื้องความหนักอึ้งจากภาระการทำงานหรือการเรียน ปกติหลายๆ ครอบครัวก็มักจะหาเวลาไปเที่ยวพักผ่อนที่รีสอร์ทในช่วงพักร้อนหรือช่วงวันหยุดยาว

บ้านสไตล์รีสอร์ท

แต่จะดีแค่ไหนหากเรามีบ้านที่มีบรรยากาศแบบรีสอร์ท ที่เราสามารถสัมผัสกลิ่นอายแห่งการพักผ่อนได้ทันทีเมื่อกลับมาจากทำงานหรือเรียน ในบทความนี้ ในบ้าน จึงจะขอพาเพื่อนๆไปชม แบบบ้านสไตล์รีสอร์ท แบบบ้านสวยๆ ที่จะเปลี่ยนให้ทุกวันเป็นเหมือนกับวันหยุดของทุกคนในครอบครัว ตามมาชมกันเลย

วันหยุดประจำปีที่นาน ๆ จะมีครั้งหนึ่ง หลายคนก็อยากไปพักผ่อนให้ชุ่มฉ่ำใจในรีสอร์ทสวย ๆ ท่ามกลางธรรมชาติ และแน่นอนว่าต้องมีบางคนที่ชื่นชอบบรรยากาศแบบนั้นจนอยากจะเอามาเก็บไว้ในบ้านของตัวเอง เหมือนเช่นเจ้าของบ้านหลังนี้เป็นแฟนตัวยงของรีสอร์ทสไตล์เขตร้อน จึงใช้เวลาหลายปีในการค้นหาไซต์ก่อสร้างที่สามารถเพลิดเพลินกับธรรมชาติ และให้ต้นไม้ ท้องฟ้า สายลม แสงแดดเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ในที่สุดก็พบที่นี่ เป็นที่ดินที่สามารถมองตรงไปยังผืนป่าอันกว้างใหญ่ แล้วสถาปนิกก็ทำหน้าที่เชื่อมโยงมุมมองภายนอกกับพื้นที่ภายในอย่างใกล้ชิด

บ้านชั้นเดียวพื้นที่ 12.6 ตารางเมตร ทรงกล่องสี่เหลียมสมัยใหม่ที่วางแผนไว้ให้มีบรรยากาศสบายๆ ภายในนี้ สร้างอยู่ที่จังหวัดนารา ประเทศญี่ปุ่น สร้างจุดเด่นที่ไม่เหมือนใครด้วยการปลูกต้นปาล์มเอาไว้ ซึ่งต้นไม้ชนิดนี้มักนิยมปลูกเป็นแนวในรีสอร์ทเขตร้อน สถาปนิกทำแปลงปลูกปูหญ้าเขียว ๆ ต่อเนื่องกับต้นปาล์มเป็นช่องสี่เหลี่ยมผืนผ้าสองแผ่นที่ลานกว้าง ทำให้เหมือนฉายแสงลงบนผนังด้านนอกสีขาวดูสะดุดตา ทางเข้าบ้านที่กั้นด้วยกระจกขนาดใหญ่สร้างรูปลักษณ์บ้านแบบใหม่ ๆ ให้กับทิวทัศน์ของเมือง

เมื่อเดินตามทางเข้ามาในบ้าน จะเห็นพื้นที่ภายในที่เป็นเหมือนส่วนขยายจากจุดที่ปลูกต้นปาล์มภายนอก พื้นที่ขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยความโปร่งเบาของกระจก เหมือน sunroom ตั้งอยู่ทั้งสองด้านของพื้นที่ใช้ชีวิต นำความเขียวขจีและแสงสว่างเข้ามา ในขณะที่ค่อย ๆ เดินต่อจากทางเข้าจะสามารถมองผ่านไปยังพื้นที่สีเขียวที่อุดมสมบูรณ์อยู่ด้านหลัง เป็นบ้านที่มีสไตล์แบบ tropical resoet ซึ่งสมาชิกในบ้านสามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพได้แบบเปิดกว้าง เหมือนบ้านที่มีอิสระไร้ขอบเขตทางสายตา

ฟังก์ชันใช้งานภายในจัดเป็นบริเวณห้องนั่งเล่น รับประทานอาหาร มีห้องครัวอยู่ตรงกลาง ซึ่งแต่ละจุดจมีผนังกระจกและคั่นด้วยคอร์ทยาร์ดภายใน ไม่ว่าจะอยู่จุดไหนทำกิจกรรมอะไรก็ไม่พลาดการเชื่อมต่อกับความเขียวขจี การวางพื้นที่สีเขียวทั้งภายนอกและภายในทับซ้อนกันสร้างภาพลวงตาที่ภูมิทัศน์เหมือนทะลุจากข้างนอกเข้าไปในบ้าน ส่วนของพื้นที่ส่วนตัวคือ ห้องนอน ห้องเด็ก ห้องสไตล์ญี่ปุ่น และห้องทำงาน จะล้อมรอบบริเวณนั่งเล่น-รับประทานอาหาร-ห้องครัว โดยแต่ละห้องสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของห้องกระจกที่แยกพื้นที่ออกจากห้องนั่งเล่น-รับประทานอาหาร ห้องครัว บรรยากาศของบ้านคล้ายกับรีสอร์ทที่ผู้พักอาศัยไม่ต้องกังวลว่าจะถูกมองจากภายนอก

ในตอนกลางคืน สภาพแวดล้อมรายล้อมไปด้วยความมืดจะสว่างด้วยแสงไฟตกแต่งเป็นบางจุด โดยเฉพาะบริเวณ pocket garden ทำให้เกิดเป็นแสงเงาฉายผ่านต้นไม้ให้ตกระทบผนัง สร้างรู้สึกเหมือนอยู่ในภูเขา เปรียบได้กับการไป “แกลมปิ้ง Glamping” ช่วยสร้างบรรยากาศพื้นที่อยู่อาศัยผสมผสานการไปแคมป์ที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นหนึ่งข้อพิสูจน์ว่าเราสามารถเพลิดเพลินกับความรู้สึกของรีสอร์ทขณะอยู่ที่บ้านได้จริง ๆ