house in phuket for sale ลดแหลกกว่าใคร 7 เคล็ดลับ ช่วยขายบ้านออกง่ายในตอนนี้
house in phuket for sale ลดแหลกกว่าใคร สำหรับนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือคนที่ต้องการจะขายอสังหาริมทรัพย์ บางครั้งอาจจะจะต้องทำใจในขณะนี้ ด้วยเหตุว่าตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสวัววิด-19 ก็ยิ่งทำให้อสังหาริมทรัพย์ขายออกไม่ง่ายนัก เนื่องจากว่าคนส่วนมากหันมาระแวดระวังการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ด้วยเหตุนั้นถ้าหากคิดจะขายบ้านเดี่ยว ขายทาวน์เฮ้าส์/ทาวน์โฮม ขายคอนโด หรือขายที่ดิน จำเป็นมากอย่างยิ่งที่จะจำต้องทราบเคล็ดวิธีพวกนี้ ที่จะสามารถช่วยให้อสังหาริมทรัพย์ที่ถือสิทธิ์อยู่ในมือนั้นขายออกง่ายดายมากยิ่งขึ้น
1. กำหนดราคาให้สมควร
ราคานับว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้อสังหาริมทรัพย์ไม่ว่าจะเป็นบ้าน ทาวน์เฮ้าส์/ทาวน์โฮม คอนโด หรือที่ดิน ขายออกได้อย่างเร็ว โดยเหตุนั้นการกำหนดราคาขายก็เลยออกจะสำคัญ และก็ถูกกล่าวถึงขึ้นมาเป็นข้อแรก การกำหนดราคาขายจะต้องมองหลายเหตุ ไม่ว่าจะเป็นราคาประเมินจากกรมธนารักษ์ ราคาประเมินจากองค์กรอิสระหรือสถาบันด้านการเงิน รวมทั้งราคาตามท้องตลาดหรือราคาค้าขายจริงบนทำเลที่ตั้งนั้นๆ
ในเดี๋ยวนี้มีสิ่งที่จำเป็นต้องระมัดระวัง ถ้าหากต้องการฟันผลกำไรด้วยการกำหนดราคาขายสูงๆบางทีอาจจะไม่เหมาะสมนัก แล้วก็บางทีอาจไม่เป็นที่พอใจ ด้วยภาวะเศรษฐกิจที่ทรงตัว การใช้จ่ายหรือซื้ออะไรที่แพงเกินกำลังก็เลยเป็นได้ยาก อีกอย่างราคาอสังหาริมทรัพย์ในตลาดก็มิได้อยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูงมากเท่าไรนัก เพื่อขายออก
2. ทำผลิตภัณฑ์ให้น่าดึงดูด
ถึงแม้คนส่วนมากจะคิดมากกว่าเดิม กว่าจะควักกระเป๋าแต่ละบาทออกมาจากกระเป๋า แม้กระนั้นก็ยังเจอสัญญาณที่ดี คนที่ปรารถนาซื้ออสังหาริมทรัพย์มากขึ้นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการค้นหาผ่านวิถีทางออนไลน์ จากข้อมูลของดีดีพร็อพเพอร์ตี้ ที่ได้กระทำเก็บความประพฤติการเข้าชมจากเว็บ DDproperty.com พบว่า ซื้อที่ดิน ปริมาณการเข้าชมรวมทั้งกระทำค้นหาต่อบนเว็บ เพิ่มสูงมากขึ้น จ.กรุงเทพฯ มากขึ้น 2% จังหวัดนนทบุรี มากขึ้น 5% แล้วก็จังหวัดปทุมธานี มากขึ้น 5%
นับว่าเป็นจังหวะของคนที่อยากได้ขาย แต่ว่าจะขายได้ไหม ส่วนหนึ่งส่วนใดจำเป็นต้องสร้างความน่าดึงดูดใจให้ผลิตภัณฑ์ เพิ่มค่าด้วยการปรับปรุงแก้ไขผลิตภัณฑ์ให้มีความสวยงามราวกับใหม่ ให้ความใส่ใจกับการเปลี่ยนแปลงบ้าน หรือคอนโดให้เหมาะสมกับการ Work From Home เพิ่มมากขึ้น โดยอาจะเลือกใช้เครื่องเรือนที่มีความยืดหยุ่น รวมทั้งเป็นประโยชน์ใช้สอยที่มากมาย นอกนั้นยังจะต้องใช้รูปภาพงามๆยั่วยวนใจความพอใจ รวมทั้งให้ข้อมูลเนื้อหาที่ครบบริบรูณ์
3. ลงประกาศขายที่พักที่อาศัย
เดี๋ยวนี้มีหนทางสำหรับคนที่ต้องการขายอสังหาริมทรัพย์ล้นหลาม ทั้งยังแบบที่จำเป็นต้องใช้เงินรวมทั้งแบบที่ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้เงิน ในกรณีที่ผู้ครอบครองขายเองก็สามารถถ่ายภาพบ้านในมุมต่างๆที่อยากพรีเซ็นท์ พร้อมด้วยจัดเตรียมข้อมูลเบื้องต้นที่สำคัญ อาทิเช่น สถานที่ ขนาดพื้นที่จะต้องตัวบ้าน ระบบสาธารณูปโภคในรอบๆใกล้เคียง และจากนั้นก็นำไปลงประกาศตามแหล่งต่างๆได้เลย พื้นที่สำหรับในการประกาศขายที่ต้องการชี้แนะมีดังนี้
- – เว็บค้าขายอสังหาริมทรัพย์ จุดเด่นคือ เว็บกลุ่มนี้มีการทำข้อมูลเพื่อยั่วยวนใจคนที่พอใจซื้อขายแลกเปลี่ยนที่พักที่อาศัยให้เข้ามาโดยตลอด จังหวะที่ลูกค้าจะได้มองเห็นบ้านหรือคอนโดที่อยากได้ขายก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ
- – กรุ๊ปที่เกี่ยวโยงกับอสังหาริมทรัพย์ใน Facebook อีกหนึ่งวิถีทางบนโลกอินเตอร์เน็ตยอดนิยมมากมาย สามารถโพสต์เพื่อประกาศขายที่อยู่ที่อาศัย แม้กระนั้นจำเป็นต้องถามกฎข้อปฏิบัติของกรุ๊ปดังกล่าวมาแล้วข้างต้นก่อนว่าอนุญาตหรือเปล่า
- – ขึ้นป้ายหน้าบ้านและก็ในรอบๆใกล้เคียง แนวทางข้างต้นนับว่าเป็นแนวทางการบนโลกอินเตอร์เน็ต แม้กระนั้นอีกหนึ่งแนวทางออฟไลน์ที่ไม่สมควรละเลยเป็นการต่อว่าดป้ายปิดประกาศ ซึ่งช่วยเพิ่มช่องทางให้กับผู้พอใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งในบ้านใกล้เรือนเคียงตนเองได้ แต่ว่าอย่าลืมทำป้ายที่มีข้อมูลการติดต่อเด่นชัดติดเอาไว้ด้วย
4. ตรวจเช็กค่าใช้สอยที่คนขายจะต้องรับผิดชอบ
สำหรับในการค้าขายอสังหาริมทรัพย์ จะมีค่าใช้จ่ายที่ผู้บริโภครวมทั้งคนขายจำเป็นต้องตกลงกันว่าคนไหนจะจ่ายส่วนใด ซึ่งถ้ามีการตกลงให้เป็นระเบียบก่อนขาย ก็จะสามารถช่วยทำให้แนวทางการขายราบรื่น และก็เป็นระเบียบเรียบร้อยเยอะขึ้นเรื่อยๆ ค่าใช้สอยส่วนมากมีดังนี้
- – ค่าธรรมเนียมการโอนบ้าน คิดเป็น 2% ของราคาประเมินที่ดินรวมสิ่งก่อสร้าง โดยธรรมดาจะแบ่งจ่ายกันคนละ 1% ระหว่างคนซื้อกับคนขาย หรือในเรื่องที่คนขายเป็นบุคคลปกติ มิได้ลดบ้านให้ แม้กระนั้นคนขายมีคำแนะนำเป็นผู้จ่ายค่าธรรมเนียมโอนบ้านทั้งผอง หรือกรณีอื่นๆตามข้อตกลงกันระหว่างคนซื้อแล้วก็คนขาย
- – ค่าภาษีอากรธุรกิจเฉพาะ โดยธรรมดาเป็นค่าครองชีพของคนขาย คิดเป็น 3.3% ของราคาซื้อขายแลกเปลี่ยน ดังนี้คนขายจะต้องถือครองบ้านเป็นระยะเวลาไม่เกิน 5 ปี แม้กระนั้นแม้ถือครองมากยิ่งกว่า 5 ปีขึ้นไป หรือมีชื่ออยู่ในทะเบียนสำมะโนครัวเกิน 1 ปี ก็จะไม่ต้องจ่ายค่าภาษีอากรธุรกิจเฉพาะ แต่ว่าคนขายจำเป็นต้องจ่ายค่าอากรแสตมป์แทน
- – ค่าอากรแสตมป์ โดยปกติเป็นค่าครองชีพของคนขาย คิดเป็น 0.5% ของราคาซื้อขายแลกเปลี่ยน แต่ว่าจะต้องไม่ต่ำยิ่งกว่าราคาประเมินที่ดิน ถ้าน้อยกว่า ให้ใช้ราคาประเมินที่ดินมาคำนวณ แม้กระนั้นในเรื่องที่คนขายอยู่ในข่ายจำเป็นต้องจ่ายภาษีธุรกิจเฉพาะ ก็ไม่ต้องจ่ายค่าอากรแสตมป์
- – ค่าภาษีอากรรายได้บุคคลปกติ ในกรณีที่คนขายเป็นบุคคลปกติ คนขายจะต้องจ่ายค่าภาษีอากรนี้ด้วยเหตุว่าเป็นผู้มีรายได้จากธุรกรรมค้าขาย การคิดค่าภาษีอากรรายได้บุคคลปกติเป็นแบบอัตราล้ำหน้าหรือแบบขั้นบันได รวมทั้งจำนวนเงินที่เสียภาษีอากรก็ขึ้นกับกระบวนการที่ได้มากับปริมาณปีที่ครอบครอง ตัวอย่างเช่น ถ้าเกิดได้มาด้วยการซื้อแล้วก็ครอบครองนาน ก็จำเป็นจะต้องจ่ายค่าภาษีอากรโอนบ้านจำนวนไม่ใช่น้อย ดังนี้ใคร่ครวญจากราคาประเมินที่ดินและก็สิ่งก่อสร้างของกรมที่ดิน
5. คำสัญญาจะต้องไม่พลาด ปกป้องการเสียเปรียบ
สัญญาซื้อขายเป็นเอกสารที่มีความจำเป็นเป็นอย่างมากสำหรับเพื่อการค้าขายบ้าน ก็เลยจำต้องพินิจทุกรายละเอียดให้รอบคอบ ซึ่งคำสัญญาที่ดีก็ทำให้ผู้บริโภค รวมทั้งคนขายอุ่นใจด้วย โดยคำสัญญาที่ดีควรจะมีข้อมูลสำคัญกลุ่มนี้
- – ขนาดรวมทั้งราคาค้าขาย จำต้องตรวจตราให้มั่นใจว่า ขนาดที่ดิน พื้นที่บ้าน รวมทั้งราคาในข้อตกลงจะซื้อจะขายนั้นเป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ ส่วนสัญญาซื้อขาย (ท.ด.13) ควรมีการเช็คราคาซื้อขายแลกเปลี่ยนบ้านแล้วก็เลขที่โฉนดที่ดินในข้อตกลงให้ถูกด้วย
- – วันที่นัดหมายโอนกรรมสิทธิ์ ข้อตกลงจะซื้อจะขายต้องกำหนดวันที่นัดหมายโอนกรรมสิทธิ์ โดยจะต้องเผื่อเวลาสำหรับเพื่อการยื่นขอสินเชื่อรวมทั้งตรวจทานบ้านด้วย แม้ข้อตกลงจะซื้อจะขายไม่มีทางนัดหมายโอนกรรมสิทธิ์ ข้อตกลงนั้นก็จะแปลงเป็นสัญญาซื้อขายที่เป็นโมฆะไปโดยปริยาย
- – การรับผิดถูกใจรายจ่าย การค้าขายบ้านจะมีค่าใช้จ่ายต่างๆเป็นต้นว่า ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์แล้วก็เงินภาษี ซึ่งบางทีอาจเปลี่ยนเป็นปัญหา ถ้าผู้บริโภคแล้วก็คนขายไม่ตกลงกันให้ดีว่าคนไหนจะเป็นผู้จะรับผิดชอบค่าใช้สอยส่วนไหน ด้วยเหตุดังกล่าวจำเป็นจะต้องเจาะจงในข้อตกลงจะซื้อจะขายให้แจ่มกระจ่าง
- – เบี้ยปรับเมื่อไม่ทำตามสัญญา ถ้าหากคนขายมีความช้าสำหรับการมอบบ้านหรือขอยกเลิกโดยที่คนซื้อมิได้ทำผิดข้อตกลง คนซื้อมีสิทธิ์คิดเบี้ยปรับรายวันได้ในอัตราไม่ต่ำยิ่งกว่า 0.01% แต่ว่ารวมกันไม่เกิน 10% ของราคาซื้อขายแลกเปลี่ยน รวมทั้งเบี้ยปรับควรจะเจาะจงไว้ภายในคำสัญญาอย่างเห็นได้ชัด
- – กติการวมทั้งข้อจำกัดอื่นๆทั้งยังคนขายแล้วก็ผู้บริโภคจำเป็นต้องสำรวจให้มั่นใจว่าตัวเองจะได้รับความชอบธรรมในข้อตกลงทุกๆข้อ ยกตัวอย่างเช่น การยกเลิกคำสัญญา การคืนเงินมัดจำ รวมทั้งการรับรองบ้าน ส่วนสัญญาซื้อขายจะกำหนดเงื่อนเพิ่มอีกในส่วนท้ายของคำสัญญา โปรดอ่านให้ครบถ้วนบริบูรณ์ก่อนเซ็นสัญญาด้วยกัน
6. คนกลาง ตัวช่วยสำคัญ
หากว่าไม่มีวิชาความรู้แล้วก็ประสบการณ์สำหรับเพื่อการขาย รวมทั้งเรื่องข้อบังคับ การคลัง ขั้นตอนทางการ วิธีขายอสังหาริมทรัพย์บางทีอาจเกิดเรื่องยากและก็สลับซับซ้อน เสนอแนะให้ใช้บริการคนกลาง ผู้ช่วยคนสำคัญที่จะมาช่วยขายเริ่มตั้งแต่
- – ให้คำปรึกษาสำหรับเพื่อการตระเตรียมบ้านก่อนประกาศขาย ได้แก่ การตกแต่งและก็การกำหนดราคาขาย กรณีบ้านมือสอง คนกลางสามารถวิเคราะห์จุดบกพร่อง ประเมินบ้าน และก็ให้คำแนะนำเพื่อปรับแต่งรวมทั้งช่วยทำให้บ้านขายได้ง่ายในราคาดี
- – ทำการตลาด หาลูกค้า ติดต่อ แล้วก็จัดการต่างๆรวมทั้งพาลูกค้าไปดูบ้านและก็ปิดวิธีขาย
- – เตรียมการสัญญาซื้อขายบ้าน แจ้งให้เจ้าของบ้านจัดแจงเอกสารต่างๆรวมทั้งช่วยอำนวยความสะดวกสำหรับในการซื้อขายแลกเปลี่ยนและก็โอนกรรมสิทธิ์
สำหรับเปอร์เซ็นต์ โดยปกติจะคิดที่ 3% ของราคาซื้อขายแลกเปลี่ยน หรือบางทีอาจต่อรองให้ลดน้อยลงกว่านี้ได้ถ้าบ้านที่จะขายแพงสูงมากมาย รวมทั้งคนกลางจะเก็บเปอร์เซ็นต์เมื่อลงลายลักษณ์อักษรจำหน่ายเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็หมายความว่าจะจ่ายเปอร์เซ็นต์ก็เมื่อได้เงินจากคนซื้อแล้ว
7. ตั้งใจเรื่องความสะอาด
ไม่ว่าจะเป็นในตอนนี้ที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสวัววิด-19 หรือไม่ก็ตาม หนึ่งในเรื่องจำเป็นที่ไม่สมควรปล่อยทิ้งก็คือเรื่องของความสะอาด ก่อนขายจะต้องมีแนวทางการทำความสะอาดบ้านแล้วก็คอนโดก่อนที่จะคนซื้อจะเข้าพักอาศัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งแนวทางการทำความสะอาดแบบบิ๊กคลีนนิ่ง (Big Cleaning) ซึ่งจะเอื้อประโยชน์ต่อวิธีขาย เพราะเหตุว่าบ้านหรือคอนโดที่สะอาด สามารถจูงใจ หรือสร้างความตรึงใจแรกให้กับคนซื้อหรือผู้เช่าตั้งแต่ตอนแรกมองเห็นนั่นเอง
ทั้งปวงนี้เป็น 7 แนวทางดีๆช่วยทำให้ขายบ้านออกง่าย ถึงแม้ในเดี๋ยวนี้ที่ดูเหมือนภาวะเศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่ว่าก็ยังเจอสัญญาณที่ดี มีบุคคลที่อยากได้ซื้ออสังหาริมทรัพย์มากขึ้น เป็นช่องทางที่คนขายจะใช้แนวทางกลุ่มนี้ปราบหัวใจผู้บริโภค