ตกแต่งโฮมออฟฟิศ ความทันสมัยของเทคโนโลยีต่างๆ ที่ได้มีการพัฒนา และออกแบบการใช้งาน ได้ตรงกับความต้องการ ถือว่าเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก ที่จะทำให้เกิดธุรกิจในรูปแบบใหม่ๆ ขึ้นมา แต่ละแบบ แต่ละชนิดก็จะเหมาะสม กับสถานที่การทำงานที่แตกต่างกันออกไป โดยเฉพาะอีกหนึ่งรูปแบบก็คือ โฮมออฟฟิศ
ซึ่งถือว่าเป็นรูปแบบที่ เรามักจะได้ยินกันบ่อยมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในไม่กี่ปีที่ผ่านมา ที่เราได้รับผลกระทบ จากโรคระบาด ส่งผลโดยตรงกับการทำงานที่มีการปรับตัว โดยเฉพาะกับการทำงานแบบ WFH ที่ในปัจจุบันออฟฟิศหลายๆ ที่ก็จะไม่ได้จำกัดว่าต้องเข้าทำงานทุกวันจันทร์ ถึงศุกร์อีกต่อไป เพราะก็จะมีบางวันที่สามารถ ทำงานได้ตามความสะดวก
ซึ่งก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่ง ผลลัพธ์ที่ทำให้เกิด โฮมออฟฟิศ ขึ้นมา โดยที่วันนี้เราจะพาทุกคนมา ทำความเข้าใจกับ ระบบการทำงานของโฮมออฟฟิศ รวมไปถึงการตกแต่งภายใน โฮมออฟฟิศอย่างไร ถึงจะมีความเหมาะสมมากที่สุด รวมไปถึงการเลือกใช้บริการบริษัทตกแต่งภายในที่ไหนที่จะตอบโจทย์ ความต้องการได้มากที่สุด บ้านหรู
ตกแต่งโฮมออฟฟิศ
ตกแต่งโฮมออฟฟิศ ที่ไหนดี
ทุกการทำงานที่ให้ได้ประสิทธิภาพมากที่สุด สภาพแวดล้อม และสิ่งอำนวยความสะดวก ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นออฟฟิศ โฮมออฟฟิศ หรือทำงานแบบ WFH เพราะฉะนั้น การตกแต่งภายในจึงถือ ว่าเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะกับการตกแต่งภายในโฮมออฟฟิศ ที่เป็นสถานที่ทำงานหลัก
ถ้าหากเลือกใช้บริการกับ บริษัทตกแต่งภายในชื่อดังอย่าง 168 To Be Design ให้เข้ามาดูแล คุณจะได้รับการออกแบบ และตกแต่งที่มีความโดดเด่น และเพิ่มประสิทธิภาพ การใช้งานของฟังก์ชันต่างๆ มากมาย รวมไปถึงการออกแบบ ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ ที่เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการคุมโทนสี เลือกจัดมุมหน้าต่าง หรือการแบ่งพื้นที่การทำงานที่ชัดเจน
แต่งโฮมออฟฟิศแบบง่ายๆ ปรับบรรยากาศให้น่าใช้งานกว่าเดิม
1.กระถางต้นไม้ จัดวางตกแต่งโต๊ะทำงาน ด้วยกระถางต้นไม้เล็กๆ หรือแจกันดอกไม้สวยๆ ถือเป็นการเพิ่ม พื้นที่สีเขียว ช่วยทำให้บรรยากาศบนโต๊ะ ทำงานนั้นสดชื่น ผ่อนคลาย และดูมีชีวิตชีวายิ่งขึ้น
2.รูปภาพติดผนัง เพิ่มความเก๋แบบง่ายๆ ด้วยการนำรูปภาพงานศิลปะ มาประดับตกแต่ง ไม่ว่าจะเป็น ภาพคน วิว ดอกไม้ ใบไม้ สถานที่ ฯลฯ ซึ่งนอกจากจะดูเก๋ๆ และมีสไตล์แล้ว ยังช่วยทำให้บรรยากาศ บริเวณโต๊ะทำงานนั้น ดูมีเสน่ห์ยิ่งขึ้นอีกด้วย
3.ชั้นวางของ หากเพื่อนๆ คนไหนที่มีข้าว ของเครื่องใช้ที่ค่อนข้างเยอะ การเพิ่มชั้นวางของเก๋ๆ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะนอกจากจะช่วยทำให้ ห้องทำงานของเราดู เป็นระเบียบเรียบร้อย ข้าวของต่างๆ ไม่กระจัดกระจายแล้ว ยังช่วยทำให้เราสามารถหยิบใช้งานสิ่งของต่างๆ ได้สะดวกยิ่งขึ้นอีกด้วย
4.อากาศถ่ายเทสะดวก จัดมุมโต๊ะทำงานให้ อากาศสามารถถ่ายเท ได้อย่างสะดวกสบาย เปิดหน้าต่างรับแสงแดด ธรรมชาติจากภายนอก ช่วยทำให้ห้องทำงาน ของเรานั้นดูโปร่ง สบายยิ่งขึ้น แถมยังช่วยประหยัดค่าไฟ ไปในตัวได้อีกด้วย
แบบ Home Office สร้างสมดุลให้ชีวิตกับงาน
ที่ทำงาน+บ้าน เป็นฟังก์ชันใหม่ ๆ สำหรับบ้านในยุคนี้ นั่นอาจจะเป็น เพราะรูปแบบการใช้ชีวิต และการทำงานที่เปลี่ยนไป การสื่อสารไร้สายที่ง่ายและรวดเร็ว ทำให้คนทำงานบางกลุ่มเลือก ที่จะเปิดออฟฟิศอยู่ที่บ้าน มากกว่าการออกไปหาทำเลข้างนอกที่อาจจะต้องเดินทางไกล กว่าจะถึงที่ทำงานบางที ก็เหนื่อยแล้ว พอกลับมาถึงบ้านก็แทบหมดแรง บางครอบครัวมีลูกเล็ก ๆ
แต่ไม่มีคนช่วยดูแลก็วิตกกังวล คงจะดีกว่าหากรวมบ้าน และที่ทำงานเอาไว้ด้วยกันได้ แต่จะทำอย่างไรให้บ้าน และที่ทำงานมีความเป็นส่วนตัวออกจากกัน มีคำตอบกับ Home office ในเวียดนามที่ดีไซน์ออกมาได้เท่ น่าทำงานและน่าอยู่ไปพร้อมๆ กัน
รวม 2 ออฟฟิศ และบ้านเข้าไว้ในที่เดียว โฮมออฟฟิศเป็นส่วนผสมของ Glandcore office + KumKent บ้านหลังนี้สร้างเพื่อคู่แต่งงานที่มีลูกเล็ก ๆ 2 คน ชื่อเหมือนบ้านคือ Kum กับ Kent เดิมพวกเขาอยู่บ้านเช่า และเมื่อครอบครัวเริ่มขยาย ก็ต้องการที่จะปรับปรุงบ้านให้เป็น “คอมเพล็กซ์” สำหรับสองสำนักงาน คือ atelier tho.A
ซึ่งเป็นบริษัทสถาปัตยกรรม และสำนักงาน Glandcore ทำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ แน่นอนว่าย่อมเป็น การยากที่จะรวมสำนักงานที่คุณสมบัติ และการใช้งานแตกต่างอย่างสิ้นเชิง และยิ่งยากเข้าไปอีกที่จะต้องมีองค์ประกอบ “ทำงาน” และ “ที่อยู่อาศัย” สำหรับครอบครัว 4 คน เข้าด้วยกัน แต่นักออกแบบก็แก้โจทย์ได้ดี โดยจัดโซนใช้งานให้ เป็นสัดส่วนออฟฟิศที่ชัดเจน และมีพื้นที่ส่วนตัวแยกอยู่ที่ชั้นบน
ชั้นล่างเป็นส่วนของออฟฟิศ ในชั้นนี้มีบันไดด้านข้างเล็ก ๆ ที่จะสามารถเชื่อมขึ้นไป ใช้งานออฟฟิศ Glandcore และครัวบนพื้นที่ชั้น 2 ได้โดยไม่ต้องเดินผ่านพื้นที่ทำงาน แต่ภายในบ้านก็เจาะโถงบันได ให้สามารถมองเห็นระหว่างชั้นได้ ทำให้ทั้งสองออฟฟิศ มีความต่อเนื่องกันแต่ขณะเดียวกันก็ แยกเป็นสัดส่วนออกจากกัน
ออฟฟิศดิบเข้มชั้นล่าง เปิดผนังอิสระปล่อยจินตนาการ ออฟฟิศที่อยู่ชั้นล่างที่จำนวนพนักงานค่อนข้างมาก และต้องการพื้นที่ส่วมรวมสำหรับระดมพลังสมอง จึงทุบผนังเดิมออก เชื่อมพื้นที่ให้เป็นโถงยาวเข้าไป วางโต๊ะทำงานตัวใหญ่แต่ดู ไม่เป็นทางการ พนักงานสามารถวางคอมพิวเตอร์ หันหน้าเข้าหากันได้ จึงสามารถทำงานร่วมกันง่าย ๆ
การตกแต่งเน้นความเรียบขรึม โทนสีเทา-ดำ ผนังทั้งด้านหน้าและด้านหลังสามารถเปิด และเปิดออกได้หมด ห้องจึงเหมือนไร้ผนังเปิดจินตนา การของคนทำงานให้ทำงานอย่างอิสระ ตกแต่งออฟฟิศ
วัสดุที่เลือกใช้ในการออกแบบอาคาร เลือกที่หาได้ง่ายในท้องถิ่น เน้นโชว์ความดิบของเนื้อแท้วัสดุเป็นหลัก เช่น ประตูบานใหญ่ที่ทำจากแผ่นเหล็กขึ้นสนิม สานแนวตั้ง และแนวนอนล้อลายเครื่องจักสาน ผนังบล็อกช่องลม งานไม้ ปูนเปลือยขัดมัน กระเบื้องพื้นเมือง บันไดหวายสาน ทำให้ภาพรวมดูเท่ทันสมัย แต่ไม่ขาดกลิ่นอายของความเป็นพื้นถิ่นแบบเวียดนาม
บันไดหวายสานที่ให้อารมณ์น่ารักแบบบ้าน ๆ ที่เราไม่เคยเห็นที่ไหน เชื่อมใจกลางบ้านชั้น 1 กับชั้น สอง ให้มีความต่อเนื่อง โถงบันไดที่เจาะสูง นอกจากจะทำให้บ้านมีช่องว่างหายใจ ช่วยเรื่องการระบายความร้อนขึ้นสู่ที่สูงได้ดีแล้ว ยังทำให้แสงเดินทางเข้าสู่ตัวบ้านได้ง่าย ภายในจึงเต็มไปด้วยความโปร่งสบาย
นอกจากบันไดกลางบ้านแล้ว ในชั้น 1 ยังมีพื้นที่วางที่ทำบันไดเล็ก ๆ เป็นทางเชื่อมต่อขึ้นมาถึงครัวที่ชั้น 2 มีห้องทำงานของอีกออฟฟิศอยู่อีกด้านหนึ่ง ทำให้คนที่อยู่ชั้น 2 เลือกใช้ทางนี้ขึ้นไปที่ครัวได้ โดยไม่ต้องลัดผ่านออฟฟิศข้างล่าง ซึ่งนักออกแบบก็พยายามกั้นขอบเขตเอาไว้ไม่ให้ก้ำเกินความเป็นส่วนตัว ซึ่งกันและกัน อย่างห้องครัวก็ จะมีผนังกั้นออกจากห้องทำงาน เป็นต้น
ห้องทำงานสายหวานบนชั้น 2 ห้องทำงานโปร่งสบาย ต้องการพื้นที่ทำงานเงียบ ๆ เป็นส่วนตัวจึงจัดโต๊ะทำงานแยกตามมุมบ้าง โต๊ะยาวบ้างเพื่อใช้สำหรับประชุม หรือทำงานร่วมกัน บรรยากาศหวาน ๆ เหมาะกับการเป็นพื้นที่ทำงานของคุณผู้หญิง แตกต่างจากชั้นล่างอย่างสิ้นเชิง ฟาซาดบ้านเป็นอิฐช่องลมรับแสงและลมเข้าสู่ตัวบ้านได้อย่างดี Home Office
ในช่วงเวลาที่แสงจ้ามากเกินไปก็เลื่อนผ้าม่านโปร่ง เบาปักลายสวยมาช่วยกั้นกรองแสง ก็ทำงานได้สบายขึ้น ช่องเปิดในชั้นนี้มีขนาดใหญ่ จัดสวนเล็ก ๆ ตามระเบียงและมุมห้องทำงาน เสริมพลังงานของความมีชีวิตชีวา และทำให้รู้สึกผ่อนคลาย จนเหมือนเป็นพื้นที่หนึ่งของบ้านมากกว่าที่ทำงาน