บ้านกลางสวน

บ้านกลางสวน บรรยากาศรอบ ๆ บ้านจึงเป็นอีกเครื่อง ปรุงรสกลมกล่อมชั้นดี ที่จะทำให้บ้าน เป็นบ้านได้อย่างแท้จริง บ้านในสวน ที่มีบรรยากาศรอบบ้านคุ้นตา เป็นลักษณะบ้านที่อยู่ คู่กับสังคมไทยมาอย่างช้านาน และนับว่าเป็นเสน่ห์ ที่เข้มข้น ยากที่จะปฏิเสธความน่าอยู่ ที่สอดผสานไปด้วย วิถีชีวิตแบบเก่า ๆ ไว้อย่างเหนียวแน่น

บ้านกลางสวน

บ้านกลางสวน

แบบบ้านกลางสวน โมเดิร์นทรอปิคอล

ไม่น่าแปลกใจที่เจ้าของบ้านยุคใหม่ จะนึกถึงบ้านที่ใช้งานได้ดี ไปจนถึงวัยเกษียณ นั่นเป็นเพราะเราได้เห็น ตัวอย่างของบ้านมากมายที่สร้างมาแล้วถูกใจ แต่ใช้งานได้ดีเฉพาะ ช่วงวัยหนุ่ม แต่เมื่อแก่ตัวลงกลับ รู้สึกว่าการใช้ชีวิตในบ้านยากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเดินขึ้นลงหรือการหยิบจับใช้งานอุปกรณ์ต่าง ๆ เจ้าของบ้านหลังนี้ที่เป็นนายแพทย์

จึงเลือกรูปแบบบ้านหลังเกษียณ สไตล์โมเดิร์นทรอปิคอล ที่ตั้งอยู่ห่างออกไปจากตัวเมือง ราชบุรีหลายกิโลเมตร โอบล้อมไปด้วยสวนมะพร้าว สวนผลไม้ ใกล้แหล่งน้ำ ให้ความชุ่มฉ่ำกับความงาม ของธรรมชาติ ในขณะที่การออกแบบ ดูทันสมัยก็ไม่ลืมที่จะคำนึงถึงการใส่ฟังก์ชันที่รองรับ เมื่อย่างเข้าสู่วัยชราเอาไว้ด้วย

บ้านสองชั้น มีหลังคาแหลมสูง 2 จั่ว หลังนี้เป็นผลงานออกแบบโดยสถาปนิก ForX Design Studio ที่มองเผิน ๆ จะมีองค์ประกอบของสถาปัตยกรรมโมเดิร์น ที่เส้นสายคมชัดเรียบง่าย แต่ถ้าพิจารณาให้ดีจะเห็นว่าบ้านนี้มี รายละเอียดบ้านทรงไทย ที่ถูกประยุกต์ลดทอนรายละเอียดลง ไม่ว่าจะเป็นรูปทรง ของหลังคาหน้าจั่ว

ผนังกระจกที่ใส่กรอบสีดำ รูปร่างสี่เหลี่ยมผืนผ้า ติดสับหว่างคล้ายฝาปะกน แบบเรือนไทยโบราณ ตัวบ้านถูกยกขึ้นมี ช่องว่างด้านล่างโปร่งๆ แบบบ้านใต้ถุนสูง นำมาผสมผสานกับวัสดุใหม่ๆ และการกำหนดทิศทางของแสง ลม ฟังก์ชัน ที่ทำให้ให้บ้านมีสุนทรียภาพในการอยู่อาศัยและตามวิถี การพึ่งพาธรรมชาติเป็นหลัก โดยมีเทคโนโลยีเป็นเพียงตัวเสริม

ภาพรวมของบ้านจะเป็นรูปตัว H มีอาคารหลักที่เชื่อมต่อกับโรงจอดรถ และทางเดินรถ ซึ่งจะมีลักษณะทึบสลับโปร่ง ในชั้นล่างจะโชว์ผนังปูนเปลือยเป็นกล่อง หนาทึบขนาดใหญ่ จากจุดนี้เข้าไปจะมีที่จอดรถ และทางเดินคอนกรีตเลียบอาคารที่ห่อหุ้มด้วยแผนงระแนงเหล็ก นำทางขึ้นไปสู่พื้นที่ ใช้ชีวิตในชั้น 2 ได้ง่ายๆ

บ้านกลางสวน

ในบ้านสร้างใหม่มักจะคำนึงถึง การใช้งานที่อำนวยความสะดวก อย่างครอบคลุม อย่างในบ้านหลังนี้จะออกแบบ ให้มีจุดเชื่อมต่อ เป็นทางลาดคู่ขนานกับขั้นบันได ยาวตั้งแต่โรงจอดไปยังห้องนอน และห้องน้ำ รองรับการใช้รถเข็นของผู้สูงวัย หรือการเคลื่อนย้ายเตียงผู้ป่วยได้ในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน

ถ้ามองจากภายนอก จะไม่เห็นว่าบ้านมี roof top garden ซึ่งความพิเศษอยู่ตรงที่บ้าน มีบันไดภายนอกสามารถเดินเข้าถึงชั้น 2 ได้โดยตรงด้วย และแผนผังบ้านจะเป็นในลักษณะตัว U ตรงกลางเปิดโล่งปูหญ้าเทียม จำลองสนามหญ้าสีเขียว ให้สมาชิกในบ้านออกมาทำกิจกรรมโดยไม่ต้องกังวล เรื่องความเปรอะเปื้อน ด้วยลักษณะการจัดวาง อาคารแบบนี้จะทำให้บริเวณ ใช้งานทุกด้านได้รับแสงธรรมชาติ ภูมิทัศน์ และสายลมพัดผ่าน ตลอดทั้งวัน

พื้นที่ใช้สอยหลักจะอยู่ใน บริเวณชั้นสองของตัวบ้าน เพื่อหลีกเลี่ยงน้ำท่วมที่อาจ เกิดขึ้นได้ในอนาคต ภายในประกอบด้วย ครัว ห้องทานข้าว มุมนั่งเล่น ซึ่งจะรวมอยู่ในจุดเดียวกัน เป็นห้องโถงใหญ่ ทำให้บ้านดูโล่ง โปร่ง และเข้าถึงทุกฟังก์ชันได้หมด โดยไม่ต้องแบ่งเป็นห้องเล็กห้องน้อย ทั้งสองด้านของบ้านมีบาน ประตูไม้ที่เปิดออกได้กว้าง ส่วนนี้ของบ้าน

จึงดูเป็นอิสระเหมือนศาลาที่ไม่มีผนัง บริเวณนี้ยังเจาะเพดานขึ้นเป็นโถงสูง และทำพื้นที่ชั้นลอยยื่นขึ้นมา ตกแต่งเพดานด้วยวัสดุลายไม้ และเหล็กตกแต่งสีดำ หใ้ความรู้สึกคมชัด เท่ เข้ากับผนังที่เป็นปูนเปลือย

ภายในบ้านตกแต่งด้วย เฟอร์นิเจอร์ไม้เป็นส่วนใหญ่

ภายในบ้านตกแต่งด้วย เฟอร์นิเจอร์ไม้เป็นส่วนใหญ่ เพื่อสร้างความรู้สึกอบอุ่น อย่างในบริเวณทานข้าว จะใช้โต๊ะไม้ชุดใหญ่ ริมผนังวางตู้ไม้สไตล์โบราณกับเก้าอี้โยกไม้เบาะ รองนั่งสีเหลืองให้ความ รู้สึกมีชีวิตชีวา แต่ได้กลิ่นอายของ วันวานแบบร่วมสมัย โดยสถาปนิกจะเลือกเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวมากที่สุด เพื่อให้เกิดความง่ายในการเปลี่ยนแปลง พื้นที่ใช้สอยในอนาคต จะหยิบยกไปวางตรงไหนก็ได้ไม่ยึดติดกับพื้นที่ใดพื้นที่นึง เพราะทุกจุดถูก กำหนดว่าต้องได้รับ มุมมองภูิมทัศน์สีเขียวรอบๆ ได้เท่ากันหมด

บันได บ้านสไตล์โมเดิร์น ทำจากท่อนไม้ติดตั้งแบบลอยตัว มีราวระแนงเหล็ก เป็นเส้นตรงเรียงขึ้นไปจนสุดทาง เหมือนองค์ประกอบทางประติมากรรมที่โดดเด่นบน ผนังปูนเปลือย ทางด้านซ้ายมือมีราวจับ พยุงตัวพร้อมไฟ LED ฝังผนังทำให้ทุกครั้งที่ ขึ้นลงมีความปลอดภัยสูง ช่วงกลางวันก็สว่างด้วยแสงแดด ธรรมชาติที่แทรกซึม ส่องผ่านจากผนังกระจกฝั่งตรงข้าม แม้โถงบันไดจะ ค่อนข้างสูงก็ไม่รู้สึกมืดหรือน่ากลัว

ถัดจากห้องโถงจะมีประตูบาน เลื่อนกระจกกรอบไม้ นำเข้ามาห้องทำงาน ที่แยกสัดส่วน โดยวางโต๊ะทำงานหันหน้า เข้าภายในบ้าน เพื่อความสงบ และเพิ่มสมาธิในการทำงาน ห้องนี้จะเต็มไปด้วย ผนังที่ตกแต่งด้วยกระจก ทำให้ภายในสว่างไสว โปร่งสบาย ผนังด้านหนึ่งติดสูงจากพื้นถึงจั่วบ้านมีกรอบ สีดำวางเรียงสลับ คล้ายฝาปะกน ทำให้สามารถมองเห็นวิว ในวิสัยทัศน์ที่กว้าง และสูงขึ้นไปจนถึงท้องฟ้า เมื่อรู้สึกล้าจากการทำงานก็แวะ ไปนั่งพักที่เก้าอี้อาร์มแชร์ ปล่อยสายตาสักครู่ หรือออกไปเดินทอดน่องคิดอะไรเพลิน ๆ แล้วค่อยกับเข้ามาทำงานใหม่

ห้องนอนเพดานสูงตีฝ้าแบบ lean to ตามแนวหลังคา

มุมครัวที่อยู่บริเวณ เกียวกับห้องทานข้าว และนั่งเล่น ออกแบบเคาน์เตอร์ครัว และหน้าบานด้วยไม้สีเข้ม มีไอส์แลนด์เตรียมอาหารผสานโคมไฟห้อยเพดานอินดัสเทรียล ผนังเหนือเคาน์เตอร์ปูกระเบื้อง หกเหลี่ยมสีเทาสลับกับลวดลาย สีขาวเสริมความทันสมัยได้เป็นอย่างดี

ห้องนอนเพดานสูงตีฝ้าแบบ lean to ตามแนวหลังคา ทำให้การลอยตัวของอากาศ ร้อนทำได้ดี ผนังบริเวณปลายเตียง จะเหมือนกับในห้องทำงาน คือ ติดตั้งเป็นกระจกกรอบ สีดำเรียงเต็มพื้นที่สูงจาก พื้นจรดจั่ว ทำให้ทุกครั้งที่ตื่นนอน และเข้านอนจะมองเห็นทิวทัศน์ท้องฟ้าในรูปแบบต่างๆ กันได้อย่างเต็มพิกัด ข้างเตียงยังมีชุดหน้าต่างไม้ที่เปิดออกรับลม และวิวสวนได้ เป็นการพิสูจน์ แล้วว่าไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในบ้านนี้ก็ จะไม่ขาดมุมมองของธรรมชาติ

ข้อดีการปลูกต้นไม้ในบ้าน

1. ปลูกเพื่อให้ร่มเงา การที่มีต้นไม้ใหญ่ภายในบ้านก็เป็นสิ่งที่ดีคือได้ร่มเงาเอาไว้พักผ่อนเวลาร้อนๆ การเลือกปลูกต้นไม้เพื่อให้ความร่มเงาควรเลือกต้นไม้ที่ให้ใบและทรงพุ่มแน่นทึบ เป็นไม้ไม่ผลัดใบเพราะจะได้รับร่มเงาตลอดทั้งปี

2. ปลูกเพื่อความสวยงาม แม้จะเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่แต่ก็มีความสวยงามของดอกและใบ อาจจะเลือกปลูกต้นไม้ที่ให้สีสันสดใสตามฤดูกาล ยิ่งถ้าปลูกต้นไม้ที่มีดอกหลายๆ สีสลับกันไปก็จะดูสวยงามมากยิ่งขึ้น เพราะดอกไม้สวยๆ ก็จะทำให้เจ้าของบ้านรู้สึกสดชื่น มีชีวิตชีวาได้เช่นกัน บ้านเดี่ยว

3. ปลูกเพื่อรับกลิ่นหอม กลิ่นหอมของดอกไม้ก็ทำให้สดชื่นได้เช่นกัน ต้นไม้ที่มีกลิ่นหอม เช่น ลั่นทม พิกุล จำปา จำปี ปีบ เป็นต้น ยิ่งถ้าเป็นดอกไม้ที่ให้กลิ่นยามค่ำคืนก็จะทำให้บรรยากาศดีไปด้วย และกลิ่นของดอกไม้ยังทำให้รู้สึกผ่อนคลายและนอนหลับสบายด้วย

4. ปลูกเพื่อต้านกระแสลม เมื่อเข้าสู่ฤดูฝนก็มักจะมีลมพัดแรง การปลูกต้นไม้ใหญ่ในบ้านก็มีความสำคัญเช่นกัน สามารถช่วยต้านทานกระแสลมได้ดี ช่วยปกป้องไม่ให้บ้านได้รับอันตรายจากกระแสลมพัดแรงได้ดีทีเดียว แต่ก็ควรปลูกให้ห่างจากตัวบ้านในระยะสัก 3 เมตร เพราะต้นไม้อาจหักหล่นมาทับตัวบ้านของเราได้

5. ปลูกเพื่อให้บ้านเย็น บ้านที่ขาดต้นไม้ใหญ่จะเห็นได้ว่ามักจะมีอากาศร้อนอบอ้าวตลอดทั้งวัน การปลูกต้นไม้ไว้ภายในบ้านก็ช่วยให้บ้านได้รับความร่มเย็นและสดชื่น โดยเฉพาะในเวลากลางวันอากาศมักจะร้อนจัดถ้ามีต้นไม้ใหญ่สักต้นมาบดบังคอยให้ร่มเงาก็จะทำให้บ้านเย็นได้เช่นกัน

นับได้ว่าวิธีเหล่านี้เป็นข้อดีต่อบ้านเราเองและต่อตัวเจ้าของบ้านด้วย เพราะฉะนั้นหากบ้านหลังไหนยังไม่มีต้นไม้ใหญ่มาบดบังแสงแดดที่ร้อนจัดในเวลากลางวันก็ควรหามาปลูกไว้สักต้น หากไม่มีเวลาดูแลก็อาจจะเป็นไม้ยืนต้นที่ให้ความร่มเย็น แต่หากใครที่มีเวลาดูแลหน่อยก็อาจจะหาต้นที่มีดอกสีสันสดใสก็จะด้วยประดับบ้านเรือนไปในตัวด้วย