บ้านน็อคดาวน์ 2 ชั้น บ้านน็อคดาวน์ คือ บ้านสำเร็จรูป (Finished home) ที่สร้างโดยไม่มีเสาและคาน แต่จะใช้ผนังเป็นตัวรับน้ำหนักแทน โดยยึดหลักโครงสร้างผนังรับน้ำหนัก (Wall Bearing System) ใช้วิธีการนำชิ้นส่วนมาประกอบกันให้เป็นตัวบ้าน นอกจากนี้ยังสามารถถอดชิ้นส่วนต่าง ๆ ออก เพื่อเคลื่อนย้ายได้อีกด้วย
บ้านน็อคดาวน์ 2 ชั้น เทรนด์บ้านมาแรงในยุคนี้
บ้านน็อคดาวน์ 10 เรื่องที่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจซื้อ
1.รู้จักโครงสร้างของบ้านน็อคดาวน์ให้ถึงแก่น
บ้านน็อคดาวน์ ใช้เรียกบ้านสำเร็จรูปที่ไม่มีเสาเอกหรือคาน ใช้ผนังเป็นตัวยึดโครงสร้างและรับน้ำหนัก การก่อสร้างบ้านจึงประกอบโครงสร้างเข้ากับวัสดุผนังเบา ทำให้ประกอบได้ไวเนื่องจากเป็นแผ่นวัสดุสำเร็จรูปแล้ว การสร้างบ้านยังใช้วัสดุน้ำหนักเบาเพื่อไม่ให้เป็นภาระกับโครงสร้างมากนัก และลดปัญหาทรุดตัวในระยะยาว
2.สร้างเสร็จไวในหลักวัน
จุดเด่นสำคัญของบ้านน็อคดาวน์ต้องยกให้ระยะเวลาในการก่อสร้างที่รวดเร็ว เพราะบ้านใช้การประกอบโครงสร้างเบาเป็นหลัก จะก่อฉาบก็เป็นเพียงการตกแต่งในพื้นที่จำกัด ส่วนใหญ่ใช้เวลาประมาณ 14 – 30 วัน ซึ่งสามารถเข้าอยู่ได้ทันที เนื่องจากไม่มีฝุ่นละอองหนักเท่ากับการสร้างบ้านก่ออิฐถือปูน
3.ดีไซน์บ้านสวยงามหลากสไตล์
แม้บ้านน็อคดาวน์จะเป็น บ้านสำเร็จรูป แต่กลับมีดีไซน์และแปลนหลากแบบหลายสไตล์ให้เลือกสรร โดยผู้รับเหมาและบริษัทรับสร้างบ้านตอบรับกระแสนิยมบ้านที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยการพัฒนารูปแบบของบ้านน็อคดาวน์ให้หลาย ใส่ลูกเล่นดีไซน์เพิ่มความน่าสนใจและเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ อาทิ สไตล์โมเดิร์น สไตล์นอร์ดิกทรงจั่ว บ้านทรงปั้นหยา บ้านทรงไทย และบ้านพักตากอากาศริมทะเล ตลอดจนสามารถเลือกได้ทั้งชั้นเดียวและสองชั้น
4.ลงทุนสร้างมูลค่าได้ จะอยู่เองก็สบาย
ด้วยดีไซน์ที่หลากหลาย บ้านน็อคดาวน์จึงรองรับการใช้งานได้ทั้งรูปแบบสำนักงานขนาดเล็ก จะเปิดสำนักงานเดี่ยวหรือทำเป็นโฮมออฟฟิศในพื้นที่บ้านเดิมก็ได้ หากทำเป็นคาเฟ่ ห้องชา หรือสโลว์บาร์จิบกาแฟขนาดกะทัดรัดก็คุมงบตกแต่งได้ง่าย และด้วยขนาดกะทัดรัดของบ้านก็สามารถทำเป็นห้องพักรีสอร์ตให้ผู้คนใช้ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติได้เช่นกัน นอกจากนี้ บ้านน็อคดาวน์ยังอยู่อาศัยได้จริง เหมาะสำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัดในการก่อสร้าง หรือเป็นบ้านหลังที่สองในที่ดินเดิมก็ได้เช่นกัน บ้านเดี่ยว บ้านแฝด
5.กำเงินแสนก็แลกบ้านได้หนึ่งหลัง
ราคาของบ้านน็อคดาวน์สำเร็จรูปอยู่ระหว่าง 120,000 – 1,500,000 บาท ขึ้นอยู่กับแปลนของบ้าน พื้นที่ใช้สอย และวัสดุที่ใช้ก่อสร้าง หากเป็นบ้านน็อคดาวน์ขนาดเล็กพิเศษ (2 x 3 เมตร) สามารถลงราคาได้ถึง 50,000 – 90,000 บาท แต่ไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือใหญ่ ก่อนตัดสินใจซื้อจำเป็นจะต้องศึกษาอย่างละเอียดว่าราคาดังกล่าวรวมการติดตั้งและบริการอื่นๆ บ้านจัดสรร แล้วหรือไม่ เช่น บริการเทฐานพื้นปูนฐานราก บริการติดตั้งสาธารณูปโภค บริการเสริมระเบียงและหลังคา หรือรายละเอียดอื่นๆ เช่น ใช้ประตูไม้หรือประตูสไลด์ ซึ่งมักเป็นค่าใช้จ่ายแฝงที่ควรให้ความสำคัญ
6.ออกแบบให้ครบจบทุกรายละเอียด
นอกจาก บ้านสไตล์บ้านน็อคดาวน์ ที่ถูกใจแล้ว การออกแบบและตกลงกับบริษัทรับก่อสร้างยังต้องครอบคลุมรายละเอียดสำคัญที่มักถูกมองข้าม อาทิ
- ระบบสาธารณูปโภค: ควรวางระบบสาธารณูปโภค เช่น ระบบไฟและระบบน้ำ และตกลงราคาให้ชัดเจนก่อน เพื่อให้ช่างได้ประกอบผนังได้ก่อนจะติดตั้งระบบได้อย่างถูกต้อง
- ดีไซน์ตกแต่งบ้าน: ลงรายละเอียดตั้งแต่กรอบประตู บานหน้าต่าง พื้น และโครงสร้างให้ครบตั้งแต่แรก อาทิ ต้องการใช้ประตูแบบใด บ้านจะมีระเบียงหรือไม่ จะมีศาลาเพิ่มไว้เอกเขนกสำหรับบ้านขนาดใหญ่หรือไม่ เพราะบ้านน็อคดาวน์ออกแบบโครงสร้างอย่างสำเร็จรูป จึงควรตัดสินใจปรึกษาและตกลงรายละเอียดเหล่านี้ก่อนตัดสินใจซื้อ
7.มั่นคงด้วยฐานและพื้นที่ตั้ง
พื้นที่ตั้งและฐานบ้านมีส่วนสำคัญในความแข็งแรงของบ้านน็อคดาวน์ที่ไม่มีเสาและคาน เริ่มด้วยการถมดินธรรมชาติและปรับหน้าดินให้เรียบ โดยดินที่แนะนำได้แก่ ดินลูกรังที่บดอัดให้แน่นได้ดี ดินเหนียวที่มีคุณสมบัติอุ้มน้ำได้ดีในราคาคุ้มค่า เหมาะสำหรับบ้านในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล และดินทรายราคาประหยัดที่ควรบดอัดก่อนนำมาใช้งาน ก่อนจะเทปูนฐานรากให้บ้านน็อคดาวน์มีฐานมั่นคงก่อนประกอบจริง
8.บ้านน็อคดาวน์หลังเดียวจบไม่ต่อเติม
ด้วยลักษณะของบ้านสำเร็จรูป บ้านน็อคดาวน์จึงไม่เหมาะสำหรับต่อเติมใดๆ นอกเหนือจากดีไซน์ตั้งต้น แม้จะมีการประกันคุณภาพบ้านจากผู้ผลิต การต่อเติมบ้านจะสร้างน้ำหนักส่วนเกินให้แก่ผนังเบาที่รับน้ำหนักของโครงสร้างทั้งหมด ซึ่งอาจทำให้บ้านถล่มและเป็นอันตรายต่อผู้อยู่อาศัยได้
9.ดูแลรักษาต้องยืนหนึ่ง
บ้านสำเร็จรูป จะใช้วัสดุน้ำหนักเบาที่มีรูปลักษณ์ภายนอกไม่ทนทานเท่าบ้านที่ก่ออิฐถือปูน ผู้ตัดสินใจซื้อบ้านน็อคดาวน์ควรจัดตารางการดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอ โดยสามารถแบ่งเป็นหมวดหมู่ต่างๆ เช่น
- ความชื้น: ในสภาพอากาศเมืองร้อนชื้น ควรดูแลเรื่องความชื้นเพื่อรักษาสุขอนามัยและความสวยงามของวัสดุตกแต่งให้คงอยู่ได้นาน รวมถึงตรวจสอบการรั่วซึมของหน้าต่างและประตูด้วย
- ความร้อนและการระบายอากาศ: ควรหมั่นเปิดหน้าต่างและประตูให้อากาศถ่ายเท เพื่อลดความร้อนภายในตัวบ้านหากไม่ได้บุฉนวนกันความร้อนไว้กับผนังบ้าน
- ความสวยงาม: สามารถพิจารณาทาสีบ้านใหม่เมื่อจำเป็นให้บ้านสดชื่นสวยงามอยู่เสมอ
10.วัสดุต้องคุณภาพดีเพื่อให้คงทนหลายสิบปี
ในอดีต บ้านน็อคดาวน์มีอายุการใช้งานประมาณ 10 – 15 ปี แต่ในปัจจุบัน ผู้ผลิตวัสดุสำหรับบ้านสำเร็จรูปพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ที่เพิ่มประสิทธิภาพให้วัสดุต่างๆ แข็งแกร่ง คงทน และใช้งานได้นานกว่าเคย ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างเหล็กไร้สนิม แผ่นสมาร์ทบอร์ด แผ่นซีเมนต์บอร์ด และวัสดุผนังเบาอื่นๆ ที่นำมาประกอบเข้ากับโครงสร้าง ซึ่งวัสดุคุณภาพดีได้มาตรฐานจะช่วยยืดอายุการใช้งานบ้านได้นับสิบปี ดังนั้นเมื่อจะตัดสินใจซื้อบ้านน็อคดาวน์ ควรเลือกผู้ผลิตบ้านสำเร็จรูปที่ใช้วัสดุคุณภาพดีได้มาตรฐาน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าบ้านนี้จะคุ้มค่าและคุ้มราคาที่ลงทุน บ้านจัดสรรภูเก็ต
แบบบ้านน็อคดาวน์ 2 ชั้น สไตล์โมเดิร์น
บ้านหลังนี้ออกแบบมาเป็นโครงเหล็กทั้งหลังดูเรียบง่าย มี 2 ชั้น จะเห็นว่าออกแบบมาเพื่อเน้นการใช้เป็นบ้านพักตากอากาศ บันไดบ้านอยู่นอกตัวบ้าน เน้นความโปร่งโล่ง ด้วยผนังกระจกหลายด้าน ประตูไม้จริงสวยๆ บานใหญ่ หน้าต่างอลูมิเนียม พร้อมมีเฉลียงหน้าบ้านและข้างบ้าน ปูพื้นด้วยไม้ มีพื้นที่กว้างมาก สามารถจัดมุมนั่งเล่นได้
มาดูอีกมุมจะเห็นว่าบ้านมีความโปร่งโล่งมา ดูแล้วไม่อึดอึด มีระแนงกันแดดทางหลังบ้าน รั้วรอบบ้านถ้าทำเป็นรั้วบ้านเหล็กดีไซน์เก๋ๆ ทันสมัย เข้ากับบ้าน จะทำให้ดูสวยขึ้นมาอีก เข้ามาในบ้าน จะเจอกับห้องโถงและส่วนครัวรวมกักน ขนาด 3.20 x 6.50 เมตร พื้นพื้นกรุไวนิลลายไม้สีน้ำตาลอ่อน ผนังภายในกรุลามิเนตมีลายและกระเบื้องโมเสค ฝ้าเพดานฉาบเรียบ
ช่องทางเดินระหว่างเคาน์เตอร์ครัว มีความกว้างประมาณ 1 เมตร บิ้วอินเคาน์เตอร์ 2 ด้าน หน้าเคาน์เตอร์ปูกระเบื้องสีขาว มีเก๊ะเก็บของหลายช่อง มีชั้นลอยวางของ อ่างล้างจาน และส่วนของเตาไฟฟ้า หน้าต่างระบายอากาศ 2 ด้าน
ขั้นมาบนชั้น 2 เป็นระเบียงโล่งกว้างมาก ไว้สำหรับทำกิจกรรม พักผ่อนหย่อนใจกับสมาชิกในครอบครัว พร้อมมีห้องอเนกประสงค์ ขนาด 3.20 x 4.20 เมตร ประตูกระจกบานเลื่อน ผนังภายนอกและภายในกรุไม้ตกแต่ง กลับมาส่วนภายนอกบ้าน สะดุดตากับที่จอดรถไฮดรอลิกยกสูงสามารถจอดได้ 2 คัน และมีพื้นที่เหลือกว้างมาก เหลือแค่การออกแบบ โรงรถสวยๆ มาเป็นที่บังแดดบังฝนให้รถคันโปรด
ข้อดี บ้านน็อคดาวน์
1.ระยะเวลาในการสร้าง รวดเร็ว ทันใจ เร็วสุด ใช้เวลาในการประกอบ ติดตั้งภายใน 1-2 วัน และระยะเวลา 1-3 เดือน สำหรับบ้านสำเร็จรูป ที่อาจต้องรอสั่งทำขึ้นมาใหม่ ซึ่งหากเทียบจากบ้านทั่วไปนั้น อาจต้องใช้เวลานานถึง 5 เดือนขึ้นไป
2.ลดภาระเรื่องแบบบ้าน เนื่องจากบ้านสำเร็จรูป มีให้เลือกเฉพาะ แบบบ้านที่บริษัทได้ออกแบบไว้ ผู้ซื้อไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายในการออกแบบบ้าน สามารถเลือกแบบต่างๆ ที่มีได้เลย
3.งบไม่บาน บ้านสำเร็จรูป ลักษณะการซื้อขาย เช่นเดียวกับสินค้าทั่วไป ราคาปกติแล้วจะเป็นไปตามที่ได้ตกลงกันกับบริษัท มักเป็นราคากลางที่ทางบริษัทผู้จำหน่ายได้กำหนดไว้แล้ว อาจมีความแตกต่างเล็กน้อย หากพื้นที่ดังกล่าวนั้น เข้าไปติดตั้งยากลำบาก หรือมีระยะทางในการขนส่งที่ไกลกว่าปกติ
4.มีตัวอย่างให้ชม ปัจจุบันผู้ประกอบการ บ้านน็อคดาวน์สำเร็จรูป หลายบริษัท นิยมสร้างบ้านตัวอย่างไว้โชว์ เพื่อให้ผู้สนใจเข้าชมผลงาน หรือบางบริษัทใช้บ้านน็อคดาวน์ทำเป็นรีสอร์ท เปิดให้เข้าพักได้ จุดนี้จะเป็นข้อดีทั้งผู้ประกอบการและผู้ซื้อ เพราะบ้านตัวอย่าง สามารถทำกำไรด้านค่าเช่าพักได้ ส่วนผู้ที่ต้องการซื้อ สามารถเช่าพักค้างคืนได้ ทำให้เกิดความมั่นใจในการอยู่อาศัยมากยิ่งขึ้น
5.ระบบไฟฟ้า ประปา สุขาภิบาล พร้อมติดตั้งมาให้อย่างเป็นระเบียบแล้ว ผู้อยู่อาศัยไม่ต้องหาช่างมาทำใหม่ สามารถใช้งานได้โดยทันที
6.เคลื่อนย้ายสะดวก โดยเฉพาะบ้านน็อคดาวน์ สำเร็จรูป หรือที่หลายท่านเรียกว่า บ้านโมบาย สามารถขนย้ายได้เลย
ข้อเสีย บ้านน็อคดาวน์
1.วัสดุก่อสร้าง ปกติแล้ววัสดุที่นำมาใช้สร้างบ้านน็อคดาวน์ ทางบริษัทรับสร้างได้กำหนดไว้เป็นมาตรฐานแล้ว ผู้ซื้อไม่สามารถกำหนดวัสดุตามต้องการได้ อาจได้บ้างเพียงแค่สีสัน หรือปรับเปลี่ยนเพียงบางส่วนเท่านั้น แต่โดยโครงสร้างหลักแล้ว เป็นไปตามที่บริษัทผู้รับสร้างได้ออกแบบไว้ และอาจมีบางบริษัท ที่ไม่ได้สร้างตามแบบที่ได้โชว์ไว้ ตรงส่วนนี้ แนะนำให้สืบค้นประวัติ หรือสอบถามรายละเอียดให้ชัดเจนก่อนทำสัญญาสั่งซื้อ
2.ข้อจำกัดด้านขนาด เนื่องจากบ้านน็อคดาวน์ จำเป็นต้องเน้นโครงสร้างที่รับน้ำหนักได้อย่างจำกัด การออกแบบ ก่อสร้าง จึงทำได้เพียงบ้านขนาดเล็ก หากต้องการหลังใหญ่ บ้านประเภทดังกล่าวนี้ จะไม่เหมาะสมเท่าไหร่นัก
3.การต่อเติมที่ทำได้ยาก เนื่องจากการออกแบบโครงสร้างบ้านส่วนต่างๆ ทำมาเพื่อรองรับกับแบบสำเร็จรูปดั้งเดิม การต่อเติมหรือดัดแปรงจึงทำได้ยาก
4.มีแบบบ้านอย่างจำกัด โดยปกติแล้วแต่ละบริษัท จะออกแบบมาให้ลูกค้าได้เลือกไม่มากนัก จึงอาจไม่ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ 100%
5.อายุการใช้งาน หากเทียบการใช้งานกับบ้านทั่วไปแล้ว บ้านน็อคดาวน์ มีอายุการใช้งานที่น้อยกว่า ส่วนใหญ่จึงนิยมประยุกต์ไว้ใช้ทำรีสอร์ทขนาดเล็ก บ้านพักในสวน บ้านหลังเล็กสำหรับแยกอยู่อาศัยจากบ้านหลัก แต่ทั้งนี้ ก็ไม่ได้หมายความรวมว่าจะเป็นเช่นนี้ทั้งหมด เพราะปัจจุบันบางบริษัท ได้มีการควบคุมการก่อสร้างและวัสดุคุณภาพ รวมถึงการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ทำให้บ้านน็อคดาวน์สำเร็จรูปบางแบบ มีอายุการใช้งานสูงขึ้น ยาวนาน 40-50 ปี ก็มี