มินิมอลลิสม์ คืออะไร

มินิมอลลิสม์ คืออะไร รู้จักกับ “มินิมอลลิสม์” สไตล์การใช้ชีวิตแบบน้อยแม้กระนั้นมากมาย

มินิมอลลิสม์ คืออะไร วิลล่าภูเก็ต มินิมอลลิสม์ (Minimalism) หรือ มินิมอล (Minimal) เป็นคำที่คนโดยมากเริ่มได้ยินมากยิ่งขึ้นในตอนระยะหลังๆมานี้ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกระแสสังคมที่ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยรับเข้ามาใช้เพื่อสำหรับการดำรงชีวิตด้านต่างๆหลายทีที่เมื่อเอ่ยถึงคำว่าไม่นิมอล

ก็ชอบมีภาพจำเป็นจะต้องการแต่งกาย การตกแต่งบ้านแบบสไตล์ของคนญี่ปุ่น หรือ แบบผลิตภัณฑ์แบรนด์ต่างๆข้อเท็จจริงแล้ว “ไม่นิมอล” ที่พวกเรามองเห็นอยู่ในงานวางแบบผลิตภัณฑ์นั้น กลับกลายเพียงแค่การปรับใช้เอาวิธีการเบื้องต้นของไม่นิมอลมาใช้

มินิมอลลิสม์

‘มินิมอล’ มาจากไหน โดยความเป็นจริงเป็นอย่างไร?

มินิมอล (Minimal) หรือ ไม่นิมอลลิสม์ (Minimalism) เป็นกระแสหนึ่งของกรุ๊ปนักแสดงในตอนต้นทศวรรษที่ 1960 กระแสนี้มีต้นเหตุมาจากความน่าเบื่อกับกระแสงานศิลปแบบ Abstract Expressionism บ้านจัดสรร ซึ่งรุ่งเรือง และก็ ทรงอิทธิพลมากมายในอเมริกาสมัยนั้น ศิลป์แบบ Abstract Expressionist เป็นการสลัดสีสันลงในงาน

เพื่อแสดงออกถึงอารมณ์ความรู้สึก แม้กระนั้นศิลป์แบบไม่นิมอลลิสต์ เป็นการถ่ายทอดสิ่งที่เรียบง่ายที่สุด ลดสิ่งอื่นๆที่ไม่มีความจำเป็น รวมทั้ง แสดงออกถึงการมีอยู่ตามความที่เป็นจริงแบบไม่อ้อมค้อม วัตถุทรงกลม ก็คือทรงกลม สี่เหลี่ยมจัตุรัสก็คือ สี่เหลี่ยมจัตุรัส

ศิลป์ไม่นิมอลลิสต์คนสำคัญ โดนัลด์ จัดด์ (Donald Judd) นักแสดงคนประเทศอเมริกา ส่งผลงานชิ้นเด่น อย่าง Untitled (1969) เป็นการเสนอศิลป์วัตถุทรงปกติสามัญอย่างกล่องสี่เหลี่ยมปกติมานำเสนอในต้นแบบที่ต่างจากขนบทางศิลป์แบบเดิมๆด้วยการห้อยกล่องทรงบ่อยๆกันบนฝาผนังเรียงกันในแนวตั้ง จัดด์

มินิมอลลิสม์

เรียกผลงานประติมากรรมของเขากลุ่มนี้ว่า ‘องค์ประกอบพื้นฐาน’ (Primary structures) กล่องสี่เหลี่ยมที่มองเย็นชา ดาษดื่น สามัญ รวมทั้ง ดูเหมือนจะถูกสร้างจากโรงงานพวกนี้ ถูกห้อยบนฝาผนังชนิดเดียวกันกับงานจิตรกรรม แต่ว่ามันก็มีความเป็นสามมิติยื่นออกมาเสมือนงานประติมากรรม

นอกเหนือจากการทรงอิทธิพลต่อเหล่านักแสดงสถานที่ทำงานศิลป์แล้ว Phuket Villa กระแสไม่นิมอล ยังกระจัดกระจายไปยังงานศิลปะด้านอื่นๆอีกทั้งงานสถาปัตยกรรม งานดีไซน์เครื่องเรือน งานวางแบบสินค้า หรือ แม้กระทั้งการปรุงอาหาร จนถึงเปลี่ยนมาเป็นหลักการสำหรับการดำรงชีวิต ซึ่งจะเห็นได้ชัดจากวิถีการใช้ชีวิตของคนประเทศญี่ปุ่น ที่มีการผสมแนวความคิดแบบเซนเข้าไปด้วย

การดำรงชีพโดยยึดหลักไม่นิมอล อันที่จริงแล้วเป็น ความประหยัดอดออม รวมทั้ง บ้านสไตล์มินิมอล การตัดสิ่งไม่สำคัญออกไป มีเครื่องใช้เฉพาะที่ต้องใช้ รวมทั้ง มีอย่างละชิ้น หรือ ตามปริมาณที่จำต้องใช้งานจริง

ชาวญี่ปุ่นในสมัยข้างหลังๆเริ่มนำวิถีการดำนงชีพแบบไม่นิมอลมาประยุกต์กับตนเอง เหตุเพราะความไม่เที่ยงในชีวิตที่มากขึ้น ทั้งยังจากภัยอันตราย และก็ ปัญหาเศรษฐกิจต่างๆความไม่เที่ยงในชีวิตก็เลยเกิดเรื่องที่จำต้องนึกถึงเสมอ ฉะนั้น การจำเป็นต้องเสียตังค์ หรือ เสียพื้นที่ไปกับการจัดเก็บข้าวของที่ไม่มีความจำเป็น ก็เลยอาจจะจะต้องเอาทิ้งไป

มินิมอลลิสม์

‘สไตล์ของมินิมอล’ กับ ‘วิธีการมินิมอล’ สำหรับการดำรงชีวิตแตกต่างเช่นไร?

สไตล์มินิมอล ถูกประยุกต์ใช้กับงานศิลปะ หรือการสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีดีไซน์แบบมินิมอล ซึ่งก็คือการตัดทอนสีสัน ตัดทอนทรง ให้มองเรียบง่าย ไม่สลับซับซ้อน สีสันแบบขาว ดำ หรือ สีเอิร์ธโทน ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ถูกออกแบบให้เป็นสไตล์ไม่นิมอล มีตั้งแต่ว่าอุปกรณ์การเรียน ข้าวของเครื่องใช้ในห้องครัวไปจนกระทั่งเครื่องใช้ไม้สอยอิเล็กทรอนิกส์ อย่างแบรนด์ที่พวกเราคุ้นหน้าหมายถึงApple ก็ใช้วางแบบแบบไม่นิมอล

ดังนี้แม้คุณซื้อผลิตภัณฑ์ที่เป็นสไตล์ไม่นิมอล แม้กระนั้นซื้อมากจนเกินความจำเป็น ก็จะเปลี่ยนเป็นสิ่งตรงกันข้ามกับแนวทางมินิมอล ในชีวิตประจำวัน เพราะขัดกับหลักความประหยัดและมัธยัสถ์ แล้วก็ การมีเฉพาะสิ่งที่ต้องการนั่นเอง ก็เลยมีการก่อให้เกิด อิทธิพลทางความนึกคิด ก่อนที่จะมาสู่ ‘ไม่นิมอลลิสม์’

‘สไตล์ของมินิมอล’ กับ ‘วิธีการมินิมอล’ สำหรับการดำรงชีวิตแตกต่างเช่นไร?

มินิมอลลิสม์ ได้รับอิทธิพลทางความนึกคิดมาจาก งานจิตรกรรมสิ่งที่เป็นนามธรรมแบบเรขาคณิต (Geometric Abstraction) ของกรุ๊ปค่อยเฮาส์ รวมทั้ง อสังหาริมทรัพย์ นักแสดงในกระแสขยับเขยื้อนทางศิลป์ De Stijl อย่าง พีต มอนเดรียน (Piet Mondrian) ที่ตัดทอนแบบอย่าง แล้วก็ เรื่องราวในรูปภาพวาดกระทั่งเหลือแค่ทรงเรขาคณิต

เส้น และก็ สีสันฐานรากอันเรียบง่าย หรือ ผลงานศิลป์สิ่งที่เป็นนามธรรมในกระแสขยับเขยื้อนทางศิลป์ Suprematism ที่นำโดยช่างวาดเขียนชาวรัสเซีย ค้างซิมีร์ มาเลวิช อย่าง ภาพ Black Square (1915) หรือ สี่เหลี่ยมสีดำธรรมด๊าปกติอันเลื่องลือ ดำเนินชีวิตแบบ ‘ไม่นิมอล’ ดียังไง?

ดำเนินชีวิตแบบมินิมอลช่วยประหยัดเงินในกระเป๋า แน่ๆว่าแม้พวกเรายึดหลักการของไม่นิมอลเป็นตัดทอนหรือทอดทิ้งสิ่งที่ไม่สำคัญ ย่อมทำให้พวกเราไม่ต้องเสียตังค์ไปกับของกลุ่มระจิก ไม่ต้องเสียเงินเสียทองกับของที่มีอยู่แล้ว หรือของที่มิได้ใช้ในชีวิตประจำวัน ก่อนที่จะพวกเราจะซื้ออะไรซักชิ้น ทดลองถามตนเองว่าจำเป็นจะต้องกับตัวเราไหม? ของมันจะต้องมีจริงมั้ย? หรือ ซื้อมาแล้วจะได้ใช้จริงๆหรือไม่?

มินิมอลช่วยทำให้รู้เรื่องความ “สำคัญ” แล้วก็ “คุณประโยชน์”

มินิมอลช่วยคืนพื้นที่ให้ชีวิต หัวข้อนี้เป็นสิ่งที่น่าดึงดูดในการดำเนินชีวิตของชาวเมือง คนจำนวนไม่น้อยเช่าหอ อพาร์ตเมนท์ คอนโดฯ หรือแม้กระทั้งผู้ที่มีคอนโดฯเป็นของตนเองก็ตาม สิ่งหนึ่งที่พวกเราเจอเป็น ข้อกำหนดของพื้นที่ เมื่อพวกเราใช้หลักไม่นิมอลสำหรับเพื่อการเลือกจ่ายตลาด ทำให้พวกเรามีเฉพาะสิ่งที่จำเป็น

ไม่ต้องเสียพื้นที่ไปกับการจัดเก็บของที่พวกเรามิได้ใช้ ไม่ต้องเสียเงินเสียทองซื้อตู้เพื่อเก็บของที่ไม่มีความสำคัญ ทำให้เกิดความรู้สึกถึงที่ว่างเพิ่มมากขึ้นในพื้นที่กำจัดของพวกเรา หรือแม้กระทั้งหาหอพักที่เล็กลง รีวิวบ้าน ได้ราคาถูกลง เพราะเหตุว่าไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่สำหรับในการเก็บของที่ไม่มีความสำคัญ ดำเนินชีวิตแบบไม่นิมอลช่วยลดความกังวลใจ เมื่อพวกเรามีของน้อยชิ้น

ความรู้สึกวิตกกังวลในวัตถุข้าวของที่เป็นของพวกเราก็ลดลง ไม่ต้องดูแลมากมาย ไม่ต้องกลัวว่าของจะหาย ไม่ต้องรู้สึกว่าของกลุ่มนี้จะเสื่อมเมื่อใด ยังคงใช้ได้อยู่ไหม ทำอย่างไรให้ใช้ได้คุ้ม ซื้อมาจะคุ้มเงินไหม ปัญหาต่างๆกลุ่มนี้เกี่ยวกับวัตถุที่พวกเราครองทำให้พวกเรากลุ้มอกกลุ้มใจ การทิ้งข้าวของไม่สำคัญ ย่อมทำให้พวกเราความกลุ้มอกกลุ้มใจน้อยลงนั่นเอง

ผลพวงการใช้ชีวิตแบบ ‘รูปแบบมินิมอล’ สุดขั้ว

มินิมอลช่วยทำให้รู้เรื่องความ “สำคัญ” แล้วก็ “คุณประโยชน์”

ในระหว่างการใช้ชีวิตแบบไม่นิมอล พวกเราจำเป็นจะต้องตั้งปัญหาเพื่อกล่าวโทษสำคัญและก็สิ่งที่ต้องการของสิ่งต่างๆอยู่เป็นประจำ ทำให้พวกเราสามารถแบ่งความอยาก รวมทั้งจุดสำคัญออกมาจากกัน เมื่อพวกเราพบจุดสำคัญของสิ่งสิ่งนั้นแล้ว

พวกเราก็จะรู้สึกถึงค่าของสิ่งสิ่งนั้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ได้แก่ ผู้ที่ถูกใจซื้อหนังสือจำนวนไม่ใช่น้อยแต่ว่ามิได้อ่าน ถ้าเลือกที่จะซื้อเฉพาะเล่มที่สำคัญจริงๆพวกเราจะเจอถึงค่าของหนังสือเล่มนั้นเหมือนกัน

 ‘รูปแบบมินิมอล

ผลพวงการใช้ชีวิตแบบ ‘รูปแบบมินิมอล’ สุดขั้ว

แม้ว่าแนวทางดำรงชีวิตแบบไม่นิมอลจะเกิดเรื่องที่ฟังดูดี ทั้งยังช่วยประหยัดเงิน มัธยัสถ์พื้นที่แล้วก็ทำให้พวกเราจุดโฟกัสกับความต้องการจริงๆในชีวิตได้ แม้กระนั้นความสุดขั้วสำหรับการดำรงชีวิตแบบไม่นิมอล มีผลต่อหลายๆด้าน ส่วนแรกเป็น ทางด้านเศรษฐกิจ ถ้าหากทุกคนใช้หลักไม่นิมอลแบบสุดขั้ว ย่อมมีผลต่อการบริโภครวมทั้งอุปโภคในตลาด กำเนิดความขัดสนทางด้านเศรษฐกิจ

อีกปัญหาของการใช้หลักไม่นิมอลแบบสุดขั้ว รวมทั้งใช้กับทุกๆเรื่องในชีวิตแบบขาดความสมดุล ทำให้การดำรงชีวิตอึดอัดมากเกินความจำเป็น เนื่องจากว่าของอะไรบางอย่างที่พวกเราซื้อ สามารถสร้างความสบายให้ชีวิต

บางบุคคลถูกใจสะสมโมเดลการ์ตูนที่ถูกใจ ก็ไม่จำเป็นที่ต้องหยุดซื้อ เพราะว่าของพวกนั้นเป็นสิ่งที่มีคุณค่าต่อสถาพทางจิตใจ เป็นความสุขครั้งใดก็ตามได้มองเห็น การจะนำแนวทางไม่นิมอลไปใช้ในชีวิต ควรที่จะนำไปใช้กับการดำนงชีพทุกวันทั่วๆไปมากยิ่งกว่า

อย่างไรก็ดี ไม่ว่าพวกเราจะยึดหลักการอะไรที่อยู่ในการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นหลักการไม่นิมอล ก็ควรมีความสมดุล หรือ แม้กระทั้งแนวทางแม็กซิมอล (Maximal) เป็นซื้อทุกสิ่งทุกอย่างอย่างแม้ว่าจะไม่สำคัญ ถ้าสุดขั้วเกินความจำเป็น ก็สร้างปัญหา ความอึดอัดสำหรับในการดำรงชีพได้เหมือนกัน

อ่านต่อเพิ่มเติม: Pool Villas Pasak . sale villa . Phuket Villa. Pool Villa. พูลวิลล่าภูเก็ต. โครงการบ้านภูเก็ต. บ้านจัดสรร. พูลวิลล่าภูเก็ต ราคาถูก. ซื้อวิลล่าภูเก็ต